ทักษิณปัดลงทุนแลกลี้ภัยในฟิจิ เผยรบ.ไทยขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้ พลิกเกมไล่ล่าแบบรัฐต่อรัฐ

ทักษิณปัดไม่ได้หอบเงิน 8 พันล้านบาทไปลงทุนแลกลี้ภัยในฟิจิ ทีปรึกษากฏหมายแม้วเผยรัฐบาลไล่ล่าอดีตนายกฯตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้ ตำรวจสากลก็ไม่ร่วมมือ จึงเตรียมหันไปเจรจาล่าตัวแบบรัฐต่อรัฐ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศและที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณเจรจากับนายกรัฐมนตรีฟิจิและหัวหน้าคณะรัฐประหารฟิจิ พร้อมจะนำเงินลงทุน 300ล้านเหรียญหรือ8,000ล้านบาท แลกกับการขอลี้ภัยภายใต้เงื่อนไขต้องไม่ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับประเทศว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ฝากชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง การไปพบนายกรัฐมนตรีของประเทศฟิจิ เป็นเพียงการเข้าพบเพื่อขอข้อมูลในการลงทุนโครงการเล็กๆน้อยๆ ไม่ใช่การลงทุนขนาดใหญ่จำนวน 8,000 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการเจรจาเพื่อขอลี้ภัย อดีตนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะลี้ภัยทางการเมือง เพราะที่ผ่านเมื่อครั้งไปอยู่ประเทศอังกฤษและเคยยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่นั่น ก็ได้ตัดสินใจขอถอนการขอลี้ภัยในเวลาต่อมา

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 กรกฎาคมผมได้โทรศัพท์คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ท่านกลับมาพักอยู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว ไม่ได้ไปอยู่ประเทศตองกา หรือเร่ร่อนในประเทศแถบแปซิฟิกตามที่เป็นข่าว ส่วนการเดินทางที่ผ่านมา ท่านไปพบปะผู้นำประเทศและเก็บข้อมูลการลงทุนเท่านั้น นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลและสื่อต่างประเทศระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ชื่อปลอมในการทางเข้าประเทศต่างๆนั้น ขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลที่รู้จักกันทั่วโลกไปที่ไหนก็มีคนขอลายเซ็น จึงขอฝากไปยังรัฐบาลว่ารัฐบาลควรจะเอาเวลาปล่อยข่าว ไปแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประเทศ

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ประเมินหรือไม่ว่ารัฐบาลอาจประสานไปยังดูไบอีกครั้งในการจับกุมตัวมาดำเนินคดี นายนพดล กล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลไทยมีความพยายามที่จะใช้ช่องทางต่างๆในการล่าตัวอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมาหลายๆประเทศเข้าใจในสถานการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณและไม่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพราะรัฐบาลไทยให้ข้อมูลเท็จและเวลาที่ทางการประเทศต่างๆขอข้อมูลเพิ่มเติมไม่สามารถให้ได้ ล่าสุดทราบข่าวมาว่ารัฐบาลไทยใช้วิธีการเจรจาระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี)ในการขอนำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ เพราะไม่สามารถดำเนินผ่านสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนและไม่สามารถขอความร่วมมือจากตำรวจสากลในการจับกุมตัวส่งกลับประเทศไทยได้