ประกาศศาลแพ่ง สั่งให้ นายสมชาย นีละไพจิตร เป็นคนสาบสูญ เปิดทาง นางอังคณา ภริยา จัดการทรัพย์สิน

ประกาศศาลแพ่ง สั่งให้ นายสมชาย นีละไพจิตร เป็นคนสาบสูญ เปิดทาง นางอังคณา ภริยา จัดการทรัพย์สิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ได้ตีพิมพ์ประกาศศาลแพ่ง

เรื่อง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายสมชาย นีละไพจิตรเป็นคนสาบสูญ คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๒๐๕๐/๒๕๕๒

ประกาศระบุว่า ด้วย นางอังคณา นีละไพจิตร ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้ศาล มีคำสั่งให้ นายสมชาย นีละไพจิตร เป็นคนสาบสูญ ศาลไต่สวนคำร้องและพยานหลักฐานของผู้ร้องฟังได้ว่า นางอังคณา นีละไพจิตร ผู้ร้อง เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ นายสมชาย นีละไพจิตร อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเลขที่ ๗๓/๕ ถนนอิสรภาพ แขวงหิรัฐรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ผู้ร้องกับนายสมชาย มีบุตรด้วยกัน ๕ คน

นายสมชายประกอบอาชีพทนายความ ได้รับตำแหน่งประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และรองประธานกรรมการ สิทธิมนุษยชนของสภาทนายความ เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๔๗ นายสมชายได้ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค หมายเลขทะเบียน ภง ๖๗๘๖ กรุงเทพมหานคร ออกไปจากบ้านเพื่อไปทำงานตามปกติ หลังจากนั้นไม่มีใครสามารถติดต่อ นายสมชายได้อีก ผู้ร้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เรื่องการหายตัวไปของ นายสมชาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์คันที่ นายสมชายขับอยู่ในสภาพมีรอยถูกชนบริด้านขวา ตอนท้าย แต่ไม่พบ นายสมชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนต่อจนทราบว่า ก่อน นายสมชาย หายตัวไป นายสมชายได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ต้องหาคดีปล้นปืน และเผาโรงเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย นายสมชายรับเป็นทนายความให้ผู้ต้องหาและทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หลังจากนั้น นายสมชายก็หายตัวไป โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ๕ คน ลักพาตัว ต่อมาพนักงานอัยการได้ฟ้อง พันตำรวจตรี เงิน ทองสุก กับพวกรวม ๕ คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ ๑๙๕๒/๒๕๔๗ หมายเลขแดงที่ ๔๘/๒๕๔๙ ในข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ และปล้นทรัพย์ วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๔๙ ศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ กระทำผิดจริง ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๓ ปี นับแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๗ ผู้ร้องไม่ได้รับข่าวคราวของ นายสมชายอีกเลย ผู้ร้องทำหนังสือถึงคณะทำงานด้านการบังคับบุคคลให้สูญหายองค์การสหประชาชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอความเป็นธรรมเร่งรัดคดี หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้ร้องยังได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามหาตัวนายสมชาย

จากการหายตัวไปของ นายสมชาย คณะทำงานปกปนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนได้รวบรวมเรื่องราว ที่เกิดขึ้นตีพิมพ์เหตุการณ์เป็นรูปเล่ม นับแต่ นายสมชายหายตัวไปจนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลาเกินกว่า ๕ ปีแล้ว ผู้ร้องมีความจำเป็นเกี่ยวกับการจัดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ซึ่งมีชื่อ นายสมชายเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องแล้วเห็นว่า ผู้ร้องเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสมชาย ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มีสิทธิยื่นคำร้องขอศาลสั่งให้ นายสมชาย เป็นคนสาบสูญได้ นายสมชายไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่า นายสมชายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ตลอดระยะเวลาห้าปี แล้ว ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑ วรรคแรก จึงมีคำสั่งให้ นายสมชาย นีละไพจิตร เป็นคนสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑ วรรคแรก ประกาศ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงชื่อ วิไลลักษณ์ อินทุภูติ ผู้พิพากษา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook