สธ.รณรงค์สวมหน้ากากอนามัย ชี้ลดแพร่เชื้อได้ถึง 80%

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พบว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ กลุ่มเด็ก 6-15 ปี คิดเป็นร้อยละ 80 การแพร่ระบาดของเชื้ออย่างรวดเร็ว เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักไม่มีความรู้เรื่องป้องกันที่ดีพอ โดยพบว่าคนปกติจะนิยมสวมหน้ากากอนามัยมากกว่าคนป่วย ซึ่งไม่ได้ช่วยป้องกันการแพร่เชื้อแต่อย่างใด จึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้ผู้ป่วยหันมาสวมหน้ากากอนามัยมากขึ้น เพราะสามารถช่วยลดการแพร่เชื้อได้มากถึง ร้อยละ 80 โดยผู้ที่ป่วยและผู้ดูแลคนป่วยต้องสวมหน้ากากอนามัยทันที ที่ป่วยมีไข้ ไอ จาม

การสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง คือ ให้สวมปิดปากและจมูก ผู้ป่วยต้องสวมตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น เวลาพูดไม่จำเป็นต้องขยับหน้ากากลง เมื่อขยับหรือถอดหน้ากากออกต้องล้างมือทุกครั้ง ใน 1 วันจะต้องเปลี่ยนหน้ากาก 2-3 ชิ้น และให้ทิ้งหน้ากากที่ใช้แล้ว ลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด เพราะหากใช้ไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ นพ.มนูญ กล่าว

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท บางจากฯ จึงร่วมสนับสนุนด้วยการเป็นจุดแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้ป่วยที่ต้องการจะลองใช้ หรือนำไปให้คนในครอบครัวที่ป่วย สามารถขอรับฟรีแม้ไม่เติมน้ำมันได้ที่สถานี บริการน้ำมันบางจาก 188 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และชลบุรี ซึ่งมีป้ายร่วมกิจกรรมของทางโครงการฯ