อุบลฯพร้อมรับมาร์คยันไม่มีปาอึ

อุบลฯพร้อมรับมาร์คยันไม่มีปาอึ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์ครั้นไม่เลิกขออุ้มกษิตยันไม่ปรับออกจากตำแหน่ง แก้ต่างคนละเรื่องเดียวกันกับกฎเหล็ก 9 ข้อ พอเจอคำถามจี้ใจดำรัฐบาลอยู่ใต้ท็อปบู๊ต หรือไม่? ถึงกับฉุนกึ้กเก็บอาการไม่อยู่ ด้าน พท.ไล่สกรัมรื้อระเบียบสำนักนายกฯ เรื่องจริยธรรม ที่ ลงนามโดย ชวน หวังกระตุ้นสำนึก กษิต ขณะที่ ผบ.ทบ.ของขึ้นยันไม่จุ้นการเมือง ส่วน ส.ส.เจ้าของพื้นที่อุบลฯ พร้อมรับนายกฯมาเยือน แถมรับประกันไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอย ปาอึ แบบสมัยเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายเสื้อแดงล้อมกรอบ กรณ์ ที่พิษณุโลก ขณะที่ มาร์ค เจอตีนตบที่นครปฐม

* มาร์ค อุ้ม กษิต สุดตัว

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ถูกตำรวจออกหมายเรียกในข้อหาก่อการร้ายปิดสนามบินว่า นายกษิตปฏิบัติหน้าที่และประสานงานกับอาเซียนได้เป็นอย่างดี และจะต้องทำงานระหว่างที่เราเป็นประธานอาเซียน

มีคนตั้งคำถามมาถึงผมที่เคยพูดถึงกฎเหล็กและมาตรฐานทางการเมือง ผมยังรักษามาตรฐานไว้ทุกประการ ไม่ต้องรอให้เรื่องคดีความต่าง ๆ ไปถึงที่สุด แต่กรณีของ รมว.การต่าง ประเทศ ผมจะไม่รอจนถึงศาลพิพากษาถึงจะมีผลทางกฎหมาย แต่มาตรฐานที่บอกว่าถ้าเป็นกรณีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา แปลว่าไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้นั้นคิดว่าดูจะเกินเลยมาตรฐานที่มีการปฏิบัติโดยทั่วไป ในชั้นนี้รัฐมนตรีก็ได้แสดงความพร้อมในการไปต่อสู้คดี และผมยืนยันว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าให้ผมหรือใครใน ครม.ไปบอกว่าคดีนี้คนนี้ผิดคนนี้ไม่ผิด จะเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม นายกฯกล่าว

* ลั่นไม่ปรับพ้นตำแหน่ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การพิจารณาสถานะของ รมว.การต่างประเทศ ตนยืนยันว่าในชั้นการถูกออกหมายเรียกนั้นไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องปรับออกจากตำแหน่ง นายกษิตควรจะได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับอาเซียน ในฐานะ รมว.งประเทศต่อไป ตนได้ตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วไม่เห็นจะมีปัญหาความน่าเชื่อถือใด ๆ ในการทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงที่ 2 ของราย การ ได้มีการนำเทปบันทึกภาพระหว่างการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.มาออกอากาศ เป็นลักษณะเรียลิตี้ มีนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกรชื่อดังจากรายการ คนค้นฅน เป็นพิธีกรรับเชิญ โดยได้สัมภาษณ์นายกฯระหว่างนั่งอยู่บนเครื่องบินและในรถช่วงที่ลงพื้นที่ เนื้อหาก็เป็นการพูดถึงโครงการปรับปรุงถนน โรงเรียน และสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการลงทุน

* ฉุนกึ้กเจอคำถามแทงใจดำ

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า เดือนนี้จะมีการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต ขอให้ประชาชน ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี เพราะจะกระตุ้นการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามยังคงมีคนบางกลุ่มที่พยายามจะขัดขวางการประชุม เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่พัทยา รัฐบาลจึงมีความจำเป็นต้องประกาศพื้นที่ จ.ภูเก็ตและโดยรอบเป็นพื้นที่ความมั่นคง และใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงปี 2551 เข้าไปดำเนินการ ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย

ภายหลังผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารจำนวน มากไม่พอใจนายกษิตพร้อมเสนอให้ลาออกจากตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อนายกษิตกลับจากประเทศนิวซีแลนด์จะได้พูดคุยกัน และในช่วงนี้ก็มีงานสำคัญรออยู่ก็ขอให้นายกษิตมุ่งทำตรงนั้นไป เรื่องคดีก็ต้องชี้แจงไม่มีใครแทรกแซง หากมีหลักฐานว่ามีใครแทรกแซงก็ขอให้แจ้งมา ขณะนี้ ทหารก็ยังให้ความร่วมมือดี เมื่อถามว่า รัฐบาลยังอยู่ภายใต้การครอบงำของทหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์แสดงอาการไม่พอใจต่อคำถามพร้อมถามกลับว่า เรื่องไหนละครับ ตนอ่านในหนังสือพิมพ์ว่านายกษิตถูกสอบถามเรื่องทหารแสดงความคิดเห็น นายกษิตก็ถามว่าเป็นใครเท่านั้นเอง

* คุยโวจะบุกภาคเหนือ

วันเดียวกันที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ นายอภิสิทธิ์เป็นประธานเปิดงานสัมมนาให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค โดย กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคมีโอกาสบริหระเทศมา 6 เดือนเศษ ตอนนี้ประเทศไม่มีทางออกปัญหารุมเร้า ส่งผลให้การส่งออกติดลบและมีปัญหาในเรื่องการเมืองเข้ามาด้วย รัฐบาลก็พยายามทำให้ประเทศเกิดความมั่นคงแต่ยังไม่สำเร็จ เพราะมีคนบางกลุ่มเคลื่อนไหวมีเป้าหมายขัดขวางไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ โดยเฉพาะการจัดการประชุม อาเซียน ซึ่งคนกลุ่มนี้มีเป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

นายกฯกล่าวต่อว่า ในวันที่ 16 ก.ค. คณะกรรมการสมานฉันท์ฯที่รัฐสภาตั้งขึ้น จะรายงานให้ทราบว่าควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตรงนี้ถือเป็นการหาทางออกให้ประเทศทางหนึ่ง แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ พอใจ บางกลุ่มบอกว่ามาเรียกร้องประชาธิปไตยแต่วิธีการกลับไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น การขัดขวางการลงพื้นที่คนกลุ่มนี้กลัวรัฐบาลลงไปชี้แจงต่อประชาชน อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะเดินทางไปทุกพื้นที่ จากภาคอีสานก็จะไปภาคเหนือ

* ยอมรับสร้างหนี้ให้ประชาชน

วันนี้รัฐบาลถูกโจมตีในเรื่องของการกู้เงิน ว่าเป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับประชาชน จาก 3 หมื่นบาทต่อหัวเป็น 5 หมื่นบาท ขอเรียนว่าการกู้เงินเป็นการลงทุนครั้งมหาศาลของประเทศ แต่เราถูกโจมตีว่าทำให้ประเทศเป็นหนี้ ทั้งที่เราได้มีการกู้ยืมในประเทศเป็นหลัก และตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. เราจะให้คนสูงอายุไปจองพันธบัตร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่จะทำให้ไทยเข้มแข็งได้ ผมสงสัยว่าทำไมสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ออก พ.ร.ก.กู้เงินรวดเดียว 7 แสนกว่าล้านกลับไม่พูดกัน นายกฯ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook