รัฐทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน. สร้างหลักประกันผู้สูงอายุ

รัฐทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน. สร้างหลักประกันผู้สูงอายุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ครม.ไฟเขียวอนุมัติวงเงินรอบ 2 ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ใน 2 โครงการ สร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 1,729 ล้านบาท และโครงการส่งเสริม อสม. เชิงรุก อีกประมาณ 553 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินประมาณ 2,283 ล้านบาท

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ให้แก่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานใน 2 โครงการ คือ โครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ และโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เชิงรุกตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,283,251,400 บาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากรายงานของกระทรวงมหาดไทย เสนอต่อที่ประชุมครม.ว่า จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก โดยโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ และโครงการส่งเสริมบทบาทอสม.ทั่วประเทศให้ปฏิบัติงานเชิงรุก นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินมาต่อเนื่องนั้น โดยงบประมาณที่ได้รับตามโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2552 จำนวน 9,000 ล้านบาท สามารถจัดสรรให้ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้เพียง 3 ล้านคน แต่จากข้อมูลผู้สูงอายุที่มีสิทธิตามหลักเกณฑ์ทั่วประเทศจำนวน 3,576,661 คน เป็นเงิน 10,729,983,000 บาท ทำให้มีผู้สูงอายุที่มีสิทธิคงเหลือที่ยังไม่ได้รับเงินสวัสดิการอีกจำนวน 576,661 คน คิดเป็นเงิน 1,729,983,000 บาท

ขณะที่งบประมาณที่ได้รับตามโครงการส่งเสริม อสม.เชิงรุกในปีงบประมาณ พ.ศ.2552 จำนวน 3,000 ล้านบาท ยังไม่เพียงพอต่อจำนวน อสม. ที่มีสิทธิได้เพียง 833,333 คน จากจำนวน อสม. ทั้งสิ้น 987,019 คน ทำให้จำนวน อสม.ที่มีสิทธิและยังไม่ได้รับเงินสวัสดิการอีกจำนวน 153,686 คน คิดเป็นเงิน 553,268,400 บาท

ในส่วนของการอนุมัติงบประมาณรอบนี้ พิจารณาใช้จากงบกลาง ในส่วนของรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยในส่วนของโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ จะจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งยังไม่ได้รับเงินสวัสดิการเบี้ยยังชีพ จำนวน 576,661 คน คนละ 500 บาทต่อเดือน จำนวน 6 เดือน รวมเป็นเงิน 1,729,983,000 บาท และโครงการส่งเสริม อสม.เชิงรุกสำหรับจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปจ่ายให้แก่ อสม.ที่มีสิทธิ ซึ่งยังไม่ได้รับเงินสวัสดิการค่าตอบแทน จำนวน 153,686 คน คนละ 600 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน รวมเป็นเงิน 553,268,400 บาท

สำหรับโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ และโครงการส่งเสริม อสม.เชิงรุก เป็นนโยบายเร่งด่วน ภายใต้โครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2552 ที่รัฐบาลชุดนี้มุ่งเน้นต้องการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ หรือไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ โดยจัดสรรเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คนละ 500 บาท ส่วนโครงการส่งเสริม อสม.เชิงรุก เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook