กษิตขอความเป็นธรรมหลังเจอข้อหาก่อการร้าย

กษิตขอความเป็นธรรมหลังเจอข้อหาก่อการร้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและแก้ข้อกล่าวหาก่อการร้ายต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ระบุว่า พฤติการณ์แห่งคดีไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายกษิต และผู้ต้องหาอีก 26 คน ร่วมกันกระทำความผิดด้วยวิธีใด แบ่งงานอย่างไร และใครเป็นคนสั่งการ แต่ปรากฏเพียงว่า นายกษิต ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 51 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพียงครั้งเดียว และไม่มีพยานหลักฐานปรากฏว่า นายกษิต ได้ทำความเสียหายให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขึ้นลงเครื่องบิน อันจะทำให้เกิดความเสียหาย และการปราศรัยบนเวทีก็เป็นการติชมการทำงานของรัฐบาล เป็นสิทธิและเสรีภาพที่สามารถทำได้

อีกทั้งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ไม่ปรากฏข้อความแสดงให้เห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการกระทำในลักษณะก่อการร้าย จึงชี้ให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนไม่มีพยานหลักฐานว่า นายกษิต ได้ร่วมกับพวกทำความผิดด้วยวิธีใด หรือมีหน้าที่ในการบริหารจัดการการชุมนุมอย่างไร และไม่ปรากฏว่า นายกษิต ได้ใช้กำลังอาวุธ ประทุษร้ายหรือทำให้ทรัพย์สินเสียหาย

ในหนังสือขอความเป็นธรรมยังยืนยันด้วยว่า การตั้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน และไม่พิจารณาข้อกฎหมายอย่างครบถ้วนในการใช้ดุลยพินิจ จึงขอให้ตรวจสอบ ทบทวนการตั้งข้อหาก่อการร้าย รวมทั้งมีคำสั่งยกเลิก เพิกถอน ข้อกล่าวหาทั้งหมด และแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนชุดดังกล่าว และให้ยุติการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ชุดทำคดีจนกว่าการดำเนินการตามข้อเรียกร้องจะเสร็จสิ้น ส่วนการยื่นแก้ต่างข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร จะดำเนินให้เสร็จก่อนวันที่ 6 ส.ค. 52

ต่อมา พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ถูกออกหมายเรียกที่สามารถดำเนินการได้ หากเห็นว่าพนักงานสอบสวนดำเนินการไม่ถูกต้อง ส่วนการทำงานของพนักงานสอบสวนคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว การแจ้งข้อกล่าวหานั้น มีหลักฐานและพยานตามสมควร หากผู้ถูกกกล่าวหาไม่สบายใจก็ต้องขออภัยด้วย ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนทำงานแล้วทำให้ ผู้ถูกสอบสวนไม่สบายใจ ตนเองในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนก็ต้องทบทวนหน้าที่ของตน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร. ก็ต้องทบทวนด้วย ที่กล่าวไปอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่า หมดกำลังใจ แต่ต้องยอมรับว่า สังคมขณะนี้มีความแตกแยก และหากไม่มีการยอมรับอำนาจรัฐ การดำเนินการสิ่งใด ๆ ไป ก็จะทำให้คดียิ่งยืดเยื้อ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook