ตลาดจับตาผลประกอบการไตรมาส 2
ด้านการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันอังคาร (14/7) ที่ระดับ 34.15/18 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากระดับปิดวันจันทร์ (13/7) ที่ระดับ 34.16/18 บาท/ดอลลาร์ ในการซื้อขายระหว่างวันค่าเงินบาททรงตัวตลอดทั้งวัน อนึ่ง ในวันพรุ่งนี้ (15/7) จะมีการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ทั้งนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.13-34.16 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 34.13/14 บาท/ดอลลาร์
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในวันอังคารนี้ (14/7) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 13973/76 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวานนี้ (13/7) ที่ระดับ 13952/55 ดอลลาร์/ยูโร โดยค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากการที่ นายฌอง-คล็อต ทริเซต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป แสดงความเห็นในเชิงบวกมากขึ้น เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายค่าเงินยูดรกลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ หลังจากตัวเลข Geman Investor Confidence (Zew Index) ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยลดลงสู่ระดับ 39.5 ในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 44.8 ในเดือนมิถุนายน ตลอดทั้งวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1.3961-1.4015 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1.3972/74 ดอลลาร์/ยูโร
ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในวันนี้ (14/7) ค่าเงินเยนเปิดตลาดที่ระดับ 92.98/93.01 เยน/ดอลลาร์ ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงจากระดับปิดวานนี้ (13/7) ที่ระดับ 91.97/92.00 เยน/ดอลลาร์ ในช่วงเช้าค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ จากแรงกดดันจากความหวังที่ว่า ภาคการเงินของสหรัฐอาจเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แล้วหันไปถือครองสินทรัพย์อื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (Carrytrade) ประกอบกับการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นในเอเชีย ทำให้นักลงทุนมีความต้องการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการจากภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงผลประกอบการของ Goldman Sachs นอกจากนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเป็นเวลา 2 วัน และคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจะขยายมาตรการเพื่อหนุนสถานะการเงินของภาคเอกชน และจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.1% ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 92.82-93.34 เยน/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดไปที่ระดับ 93.11/13 เยน/ดอลลาร์
อนึ่งตัวเลขสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ อาทิ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายน (14/7), กระทรงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิถุนายน (14/7), กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายน (15/7), ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์คเปิดเผยผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตเดือนมิถุนายน (15/7) กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (16/7), ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนกรกฎาคม (16/7), กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิถุนายน (17/7) นอกจากนี้ตลาดยังรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรับและธนาคารกลางญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ด้วย
อัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +2.00/+2.20 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +2.00/+4.00 สตางค์/ดอลลาร์