5 ชนิดกีฬาเฮลั่นได้รับเงินอัดฉีด
บิ๊กอ๊อดพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดความเหมาะสมและความถูกต้องการปรับปรุงแก้ไขประกาศท้ายระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2548 เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ ที่ห้องประชุมบ้านอัมพวัน เมื่อ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
ประธาน แจ้งว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองทุนฯ ได้มอบหมายให้ตนมาศึกษารายละเอียดเรื่องหลักเกณฑ์อุดหนุนเงินรางวัลมหกรรมกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, ชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์โลกโดยเฉพาะ 5 ชนิดกีฬา คือ เซปักตะกร้อ, กอล์ฟ, มวยไทย, บิลเลียด และโบว์ลิ่ง ซึ่งเป็นกีฬาที่ ไม่มี แข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ใด้รับการยกเว้นได้รับเงินรางวัลเทียบเท่ากับชนิดกีฬาที่ มี แข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ใหม่ หลังจากที่คณะอนุกรรมการประกาศแก้ไขท้ายระเบียบ ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธาน นำเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เมื่อ 8 มิ.ย. ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน รวมถึงสอบถามโดยตรงไปยังสมาคมกีฬาทุกสมาคม มีความเห็นตรงกันว่า เพื่อไม่ให้เกิดความแบ่งแยกในแต่ละชนิดกีฬาและสอดคล้องกับธรรมนูญโอลิมปิกสากล ที่ต้องการเห็นทุกชนิดกีฬามีความเท่าเทียมกัน จึงเห็นควรให้ ยกเลิก ระเบียบเกณฑ์อุดหนุนเงินรางวัลที่ระบุว่า มี หรือ ไม่มี แข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ออก และให้ยึดเกณฑ์อุดหนุนเงินรางวัลเท่าเทียมกันทุกชนิดกีฬา ตามหลักเกณฑ์ที่ กองทุนฯ กำหนด
ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้แก้ไขระเบียบอุดหนุนเงินรางวัลให้กับกีฬายกน้ำหนัก ในส่วนของการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียและชิงแชมป์โลก ให้ได้รับเงินอุดหนุนนับเป็น 3 เหรียญทอง จากท่าสแนตช์, คลีนแอนด์เจิร์ก และน้ำหนักรวม เนื่องจากปัจจุบัน กองทุนฯ สนับสนุน 1 เหรียญทอง โดยชิงแชมป์เอเชีย จะได้รับเหรียญทอง 5 แสนบาท, เงิน 3 แสนบาท, ทองแดง 2 แสนบาท ส่วนชิงแชมป์โลก ทอง 1 ล้านบาท, เงิน 5 แสนบาท, ทองแดง 2 แสนบาท ซึ่งที่ประชุมจะทำการสรุปข้อมูลเสนอให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติใน เร็ว ๆ นี้ ต่อไป.
