บขส.เล็งซื้อที่150ไร่ย่านดอนเมือง สร้างสถานีขนส่งใหม่แทนหมอชิต2

บขส.เล็งซื้อที่150ไร่ย่านดอนเมือง สร้างสถานีขนส่งใหม่แทนหมอชิต2

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บขส. เล็งหาที่ดิน 100-150 ไร่ ย่านดอนเมือง สร้างสถานีขนส่งใหม่มูลค่ากว่า 3,000 ล้าน ชงเรื่องให้บอร์ดเห็นชอบ 16 ก.ค.นี้ หนีการคับคั่งของผู้โดยสารหมอชิต 2 ขณะที่ผลกำไรปีนี้คาดเกิน 100 ล้าน หลังปรับระบบบริหารต้นทุน-การเดินรถมีประสิทธิภาพ ปีหน้าเพิ่มรถเอ็นจีวี 200 คัน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้จะนำผลการศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างสถานีขนส่งแห่งใหม่ เพื่อทดแทนสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ที่เริ่มมีความหนาแน่นของจำนวนผู้โดยสาร ให้คณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัท เป็นผู้พิจารณา หรืออาจจะเป็นการขยายพื้นที่เพิ่มเติมของสถานีเดิม ซึ่งเบื้องต้นจะให้บอร์ด พิจารณาเรื่องของการจัดหาพื้นที่สำหรับการดำเนินการ

ทางบริษัทเห็นว่าควรจะมีที่ดินเป็นของตนเอง เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน ไม่น้อยกว่า 100-150 ไร่ หลังจากนั้นจึงมาพิจารณาในแนวทางการลงทุนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งประเมินว่ามูลค่าโครงการก่อสร้างสถานีแห่งใหม่และจัดซื้อที่ดินไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยหลังได้รับการพิจารณาแล้วคงจะเริ่มต้นประกาศหาซื้อที่ดิน ในบริเวณเขตดอนเมืองขึ้นไป แต่หากไม่มีที่ดินแปลงใหญ่ก็อาจจะแบ่งสถานีขนส่งผู้โดยสารเป็นส่วนของภาคเหนือและภาคอีสาน นายวุฒิชาติ กล่าวและว่า

หากมีการก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใหม่ จะสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ถึงวันละ 2.5 แสนคน จากเดิมที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 รองรับได้วันละกว่า 1 แสนคนเท่านั้น ด้านแนวทางการลงทุนนั้นมีหลายแนวทางเลือก อาทิ 1. บริษัทลงทุนดำเนินการเองทั้งหมด 2. บริษัทร่วมกับเอกชนลงทุนในบางส่วน โดยที่ดินเป็นของบริษัทเอง และ 3. เปิดสัมปทานให้เอกชนลงทุนทั้งหมด

นายวุฒิชาติ กล่าวอีกว่า ความพร้อมด้านการลงทุนในขณะนี้บริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะไม่นำเงินดังกล่าวมาใช้ แต่อาจจะกู้เงินจากสถาบันการเงินมาลงทุน หรือให้เอกชนเป็นผู้เข้ามาสัมปทานลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวทางที่จะเลือกและนำเสนอบอร์ด พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวมประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ผลกำไรน่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรประมาณ 70-80 ล้านบาท คาดจะมีกำไรมากกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการบริหารต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการบริหารการเดินรถที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่นๆ นอกเหนือจากรายได้ค่าโดยสารเพิ่มเข้ามาด้วย เช่น รายได้จากการขนส่งสัมภาระ เป็นต้น

ขณะเดียวกันแผนงานตามโครงการจัดหารถใหม่ ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงเอ็นจีวีจำนวน 800 คัน ที่จะนำเข้ามาเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และลดมลพิษที่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงที่จะเริ่มต้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยจะจัดหารถจำนวน 200 คัน เข้ามาก่อนเป็นปีแรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook