หน.พงส.รับเห็นแย้งตั้งข้อหาเชื่อพธม.ผู้ก่อการดีตั้ง3นายพลดู-จำลองพาเด็ก4ขวบโชว์ท้าตร.จับในฐานะหน.

หน.พงส.รับเห็นแย้งตั้งข้อหาเชื่อพธม.ผู้ก่อการดีตั้ง3นายพลดู-จำลองพาเด็ก4ขวบโชว์ท้าตร.จับในฐานะหน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วุฒิรับพิจารณาแย้งก่อการร้ายบอกเชื่อแกนนำ พธม.ผู้ก่อการดีชี้ผลสอบสวนเป็นความเห็นร่วมกัน รับข้อมูลยันให้ความเป็นธรรมตั้ง 3 นายพลดูข้อเท็จจริง-ยันไม่เสียหน้า พันธมิตรฯส่งทนายยื่นแก้ข้อกล่าวหาเกินจริง สุเทพไม่กังวลใจไม่ต่อความยาวสาวความยืดจำลองพาเด็ก4ขวบขึ้นเวทีท้าตร.จับในฐานะหน.ผู้ก่อการ วุฒิรับพิจารณาแย้งก่อการร้าย

พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) 36 คน จะเดินทางมาเพื่อโต้แย้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนในข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิและคดีสนามบินดอนเมือง ตามหมายเรียก ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม ว่า การขอยื่นข้อโต้แย้งของทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรตามกฎหมายแล้วจะต้องรับไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในเรื่องเกิดเหตุเดือนธันวาคม 2551 แต่ตนมาร่วมรับผิดชอบเดือนเมษายนจนถึงปัจจุบัน มีข้อมูลจึงคิดเห็นเป็นส่วนรวมว่ามีหลักฐานตามสมควรที่จะกล่าวหา คณะทำงานสอบสวนทั้งหมดเห็นพ้องว่าจะเชิญทางแกนนำเข้ามาแก้ข้อกล่าวหา

พล.ต.ท.วุฒิกล่าวว่า สิ่งที่แกนนำพันธมิตรจะนำมาเสนอแก้ข้อกล่าวหาก็ต้องดำเนินการให้เกิดความยุติธรรม มองว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องของความรุนแรงคือผู้ที่เชิญมาทั้ง 36 คนต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องการให้เห็นว่าตำรวจยังเป็นที่พึ่งของความยุติธรรมได้ หากทางแกนนำไม่เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาก็เป็นสิทธิทำได้ และจะทำให้เป็นตำราว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้จะทำอย่างไรต่อไป

บอกเชื่อแกนนำพธม.ผู้ก่อการดี

ผมเห็นว่าการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเขียนป้ายว่าเป็นผู้ก่อการดี ผมก็มีความเห็นคล้อยตามนั้น ผมขอแสดงความเห็นส่วนตัวว่าในความจริงแล้วผมเห็นด้วย เพียงแต่ว่าสำนวนการสอบสวนกับความเห็นของการทำสำนวนการสอบสวนนั้นเป็นความเห็นร่วมกัน เรามีพยานหลักฐานเพียงส่วนหนึ่งซึ่งจะต้องสอบพยานต่อไป พล.ต.ท.วุฒิกล่าว และว่า เรื่องนี้เป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับสังคมส่วนรวม ไม่หวั่นเกรงว่าจะกระทบการทำงาน เพราะพูดในฐานะส่วนตัว ในเรื่องกฎหมายไม่ได้บอกว่าการก่อการร้ายหรือผู้ก่อการร้ายคืออะไร คิดว่าที่เขียนว่าผู้ก่อการดีนั้นถูกต้องแล้ว ตนไม่เสียใจยืนยันที่กล่าวไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ออกมากล่าวความรู้สึกส่วนตัวนั้นแสดงว่ามีแรงกดดันภายในคณะสอบสวน พล.ต.ท.วุฒิกล่าวว่า การก่อการร้ายคืออะไรซึ่งขณะนี้เป็นกฎหมายใหม่คิดว่าจะต้องฟังความคิดเห็นของสังคมรอบด้านรวมทั้งนักกฎหมายด้วย

เหลืองนับพันให้กำลังใจแกนนำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการรายงานตัวของแกนนำพันธมิตร ตามหมายเรียกที่สโมสรตำรวจครั้งนี้ มีประชาชนสวมเสื้อเหลืองประมาณ 1,000 คนทยอยเดินทางมาให้กำลังใจตั้งแต่เวลา 07.00 น. มีทั้งรถบัส รถตู้และรถยนต์ส่วนตัว โดยหน้าอาคารตั้งโต๊ะอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ และมีการนำรถบรรทุก 6 ล้อติดเครื่อยายเสียงมาจอดหน้าสโมสรตำรวจเพื่อใช้เป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว มีแกนนำและแนวร่วมหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีโจมตีพนักงานสอบสวนในการตั้งข้อกล่าวหาเกินความเป็นจริง โดยมีตำรวจจาก บก.น.2 จำนวน 1 กองร้อยประจำการตามจุดต่างๆ โดยรอบสโมสรตำรวจ และมีการนำแผงเหล็กมากั้นประตูทางเข้าของตัวอาคารเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปภายใน

แกนนำพธม.ส่งทนายยื่นโต้แย้ง

เวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ในฐานะผู้ต้องหาคดีบุกสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ตนและแกนนำทั้ง 36 คน ได้รับทราบข้อกล่าวหาหลังจากที่พนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกมาที่บ้านแล้ว วันนี้ยืนยันว่าจะไม่เข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากการตั้งข้อหาก่อการร้ายเป็นข้อหาที่เกินความจริง โดยจะให้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ยื่นหนังสือข้อโต้แย้งข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน และผู้ต้องหาคนอื่นๆ ก็จะไม่เข้ารายงานตัวเช่นกัน

จำลองพาเด็ก4ขวบขึ้นเวทีท้าตร.จับในฐานะหน.ผู้ก่อการ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยชั่วคราวบนรถบรรทุกกล่าวว่า ในตัวเองฐานะผู้ก่อการร้ายหมายเลข 1ถามผู้ก่อการร้ายต้องมีอาวุธซึ่งพันธมิตรหลายพันคนมีท่อนไม้ท่อนเหล็ก ไม้เบสบอล ไม้กอล์ฟเป็นอาวุธ ซึ่งตำรวจต้องไปยึดให้หมดทั่วประเทศเพราะคนทั่วไปมีไม้กอล์ฟไม้เบสบอลเต็มไปหมด อ้างว่าอาวุธดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้โดยสารและพนักงานในสนามบินต้องหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าว ถามว่าคนประเภทไหนที่กลัวไม้ตีกอล์ฟ

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า วันนี้จำเป็นต้องเปิดตัวหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่ตำรวจไม่กล้าจับ ผู้ที่ปราศรัยปลุดระดมให้มวลชนที่เป็นพันธมิตรฯ เพื่อให้สมตามข้อกล่าวหาที่มีอาวุธ วันนี้หัวหน้าผู้ก่อการร้ายพกอาวุธมาด้วย

จากนั้น พล.ต.จำลองนำเด็กชายบอล อายุ 4 ขวบ ที่เคยขึ้นมาเวทีพันธมิตรหลายครั้งถือปืนปลอมแล้วท้าให้ตำรวจออกมาจับและไม่แน่จริงไม่กล้าจับหัวหน้าผู้ก่อการร้าย

ด้านนายสุวัตรกล่าวภายหลังมาที่สโมสรกรมตำรวจ พร้อมมีสมาชิกพันธมิตรตามมาให้กำลังใจจำนวนมากว่า ทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรยืนยันว่าจะไม่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากการตั้งข้อหาเป็นข้อหาที่ร้ายแรงเกินความเป็นจริง จะยื่นหนังสือข้อโต้แย้งใน 2 ประเด็น อย่างแรกคือ กลุ่มพันธมิตรไม่ได้บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยสามารถเปิดให้พนักงานและผู้โดยสารใช้บริการได้ตามปกติ แต่นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.ททท. เป็นผู้สั่งปิดสนามบินเองแสดงให้เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรยุติการชุมนุมแล้ว นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นจากการชุมนุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าใช้สิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายอย่างที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา นายสุวัตรกล่าว และว่า จะยื่นหนังสือข้อโต้แย้งต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (กตร.) และหากตำรวจยังออกหมายจับกลุ่มพันธมิตรอยู่ จะยื่นเรื่องฟ้องนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อศาลปกครองต่อไป

วุฒิ รับข้อมูลยันให้ความเป็นธรรม

เวลา 10.15 น. พล.ต.ท.วุฒิขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยชั่วคราวที่สโมสรตำรวจว่าจะนำข้อมูลที่ทางกลุ่มพันธมิตรมอบให้มาเพิ่มเติม ประกอบกับพยานหลักฐานเพื่อทำสำนวนการสอบสวน จะฟังคำให้การของทางแกนนำทั้ง 36 คน มาประกอบสำนวนคดีเพื่อให้เกิดความยุติธรรม ในฐานะที่เป็นข้าราชการตำรวจถือคติอยู่ว่า ประชาชนเป็นนายของเรา เชื่อว่าเวลาในวันข้างหน้าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ และหากกลุ่มพันธมิตรเปลี่ยนใจสามารถเรียกใช้บริการได้อีก

กระทั่งเวลา 13.45 น. แกนนำพันธมิตรได้กล่าวปราศรัยให้ยุติการชุมนุม จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางกลับ

ตั้ ง3 นายพลดูข้อเท็จจริง-ยันไม่เสียหน้า

ภายหลัง พล.ต.ท.วุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่าจะส่งรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนระดับนายพล 3 นาย พิจารณาข้อกฎหมายและความเป็นไปได้ รวมทั้งข้อเท็จจริง หลังจากได้ข้อยุติจะหารือกับฝ่ายกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ร่วมหารือด้วย ส่วนกรณีไม่รายงานตัวขัดต่อกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องหารือกับพนักงานสอบสวนก่อน เมื่อถามว่าตำรวจเสียหน้าหรือไม่ พล.ต.ท.วุฒิกล่าวว่า ไม่เป็นการเสียหน้า เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลความยุติธรรม และจะรายงาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.รับทราบ จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนจะส่งอัยการได้เมื่อไหร่ยังไม่สามารถตอบได้

พล.ต.ท.วุฒิกล่าวกรณีที่ขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อช่วงเช้าว่า ทนายความของกลุ่มพันธมิตรเชิญขึ้นไป ส่วนตัวก็อยากขึ้นอยู่แล้ว แต่ผลที่กระทำไปจะออกมาอย่างไรก็พร้อมจะยอมรับ

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า สั่งให้ตำรวจทำงานเต็มที่ตามความรับผิดชอบที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ คงจะไม่บานปลาย เพราะตราบใดที่ยังยึดกฎหมายเป็นหลัก ปฏิบัติตรงไปตรงมาก็ไม่น่ากังวลใจ

ต่อความยาวสาวความยืด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook