เอแบคโพลล์ เผย ประชาชนเกินครึ่งยังไม่เชื่อมั่นการควบคุมการแพร่ระบาดหวัดใหญ่ 2009 ของรัฐบาล

เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจผู้โดยสารรถสาธารณะ โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย มีภาวะเสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สูงเกือบ 4 เท่า ของผู้ที่สวมใส่ ขณะที่ ประชาชนเกินครึ่งยังไม่เชื่อมั่น ในการควบคุมการแพร่ระบาดของรัฐบาล นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ "เอแบคเรียลไทม์โพลล์ เรื่อง ความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ "ไข้หวัด 2009 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,215 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2552 พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 61.4 ยังไม่เข้าใจดีพอในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเมื่อถามถึงการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ในสถานที่ต่างๆ พบว่า ร้อยละ 88.7 ไม่ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใน คอนโดมิเนียม หอพัก อพาร์ทเมนต์ สำหรับการปฏิบัติตัวเมื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 73.8 ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ที่น่าพิจารณาคือการเดินทางไปโรงพยาบาล คลีนิค สถานพยาบาลนั้นพบว่า มีประชาชนเกินครึ่ง หรือ ร้อยละ 52.6 ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวอีกว่า จากผลวิเคราะห์สถิติวิจัยครั้งนี้พบค่าอิทธิพลของปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อการไม่สบายจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกลุ่มประชาชนทั่วไป ได้แก่ ผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสาร รถเมล์ รถแท็กซี่โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย จะมีภาวะความเสี่ยงต่อการไม่สบายจากไข้หวัดใหญ่ 2009 สูงเกือบ 4 เท่า ของผู้ที่สวมใส่ ผู้ที่เดินทางไปสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมากโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย จะมีภาวะความเสี่ยง คิดเป็น 2.297 เท่าของผู้ที่สวมใส่ ผู้ที่เดินทางไปห้างสรรพสินค้าโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย จะมีภาวะความเสี่ยง คิดเป็น 2.174 เท่าของผู้ที่สวมใส่ ขณะที่ ผู้ที่เดินทางไปโรงพยาบาล คลีนิค สถานพยาบาลโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย จะมีภาวะความเสี่ยง คิดเป็น 2.168 เท่าของผู้ที่สวมใส่ ทั้งนี้เมื่อถามถึงการปกปิดข้อมูลที่แท้จริงเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.2 ไม่คิดว่ารัฐบาลกำลังปกปิดอะไร แต่ ร้อยละ 61.1 ระบุว่า กังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคในระดับค่อนข้างมากถึงมากที่สุด โดยที่ประชาชนเกินครึ่ง หรือ ร้อยละ 53.9 ระบุ ไม่ค่อยเชื่อมั่นจนถึงไม่เชื่อมั่น ต่อรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ 2009