แฉอีกแจ็คสันเป็นหมันเพราะเคยถูกพ่อตีที่หว่างขา

ผลการชันสูตรศพไมเคิล แจ็คสัน ล่าช้าอีก 2 สัปดาห์  โจ พ่อแจ็คสันออกมาปฏิเสธไม่เคยทำโทษลูก ๆ รุนแรงเกินกว่าพ่อแม่ทั่วไป เผยผู้กำกับหนังโฆษณาเป็นตัวการให้ แจ็คสันถูกไฟไหม้ผม

เว็บไซต์กอสสิพบันเทิง TMZ.COM ระบุว่า สำนักงานชันสูตรศพในลอส แองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนียจำเป็นต้องใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ จึงจะสามารถออกรายงานการชันสูตรศพของไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อปได้ และเหตุผลของความล่าช้า ก็มาจากที่ปรึกษาภายนอกหลายคน ยังทำรายงานของพวกเขาไม่เสร็จ แต่ที่สำคัญก็คือ จากการทดสอบที่เสร็จสิ้นไปบ้างแล้ว มีสิ่งบ่งชี้ว่า ยาโพรโพฟอลจะอยู่ในรายชื่อของสาเหตุต้น ๆ ที่นำไปสู่การเสียชีวิตของแจ็คสัน แต่ทางสำนักงานชันสูตรยังไม่ได้ออกรายงานในส่วนนี้ออกมา

ขณะเดียวกัน พอล โกห์แรนสัน อดีตคู่รักร่วมเพศของ ดร.อาร์โนลด์ ไคลน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังของแจ็คสัน ได้ออกมาเปิดเผยว่า ดร.ไคลน์อ้างว่า แจ็คสันไม่สามารถมีลูกได้เอง เพราะเขาเป็นหมัน โดยโกห์แรนสัน ซึ่งเป็นพนักงานนวดชาย และเคยเป็นคู่รักของ ดร.ไคลน์ กล่าวว่าแจ็คสันต้องกลายเป็นหมัน เพราะเคยถูกโจ แจ็คสัน พ่อของเขาเองตีที่หว่างขา และนี่คือเหตุผลที่ ดร.ไคลน์ ต้องบริจาคสเปิร์มของเขาให้แจ็คสัน เพื่อให้เขาเป็นพ่อคนได้

โกห์แรนสัน กล่าวว่า เขาเคยถาม ดร.ไคลน์ว่า เหตุใด แจ็คสันจึงไม่ใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียม ซึ่ง ดร.ไคลน์ ได้ตอบว่า โดยทางร่างกายแล้วแจ็คสันไม่สามารถมีลูกด้วยตัวเองได้และดร.ไคลน์ วัย 53 ยังบอกด้วยว่า เขาชิงชังพ่อของแจ็คสัน เพราะแจ็คสันเคยบอกกับเขาเรื่องที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากน้ำมือของพ่อ และแจ็คสันบอกกับเขาว่า เขาถูกพ่อทำร้ายบริเวณของสงวนถึง 2 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เขายังเด็กมาก จากการที่โจจับข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ ในท่าห้อยหัวลงและกระหน่ำตีอย่างไม่ยั้ง และไปโดนบริเวณของสงวนที่ทำให้เขาเจ็บปวดมาก

ส่วนครั้งที่สอง เกิดขึ้นตอนที่เขาออกอัลบั้มเดียวแล้ว แต่ยังทำได้ไม่ดี และถูกต่อว่าเรื่องเสียง หน้าตา สร้างความอับอายให้ครอบครัว ทำให้แจ็คสันถึงกับร่ำไห้และพูดบางอย่างที่เป็นการต่อว่าพ่อของเขา ทำให้โจทำร้ายเขาอีก และครั้งนี้ถึงขั้นทำให้ส่วนสำคัญของร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิม และไม่สามารถผลิตสเปิร์มได้อีกต่อไป

ดร.ไคลน์ กล่าวด้วยว่า ประมาณช่วงทศวรรษที่ 89 หรือ 90 แจ็คสันเคยพยายามมีลูกของตัวเองที่เกิดโดยธรรมชาติ เขาได้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะ ( urologist ) และแพทย์ได้บอกกับเขาว่าไม่สามารถมีลูกได้

ขณะที่ โจ แจ็คสัน วัย 79 ปี เพิ่งจะออกมาปฏิเสธครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้ว่า เขาไม่เคยตีแจ็คสันสมัยยังเป็นเด็กแต่เขาก็ถูกกล่าวหามานานแล้ว เรื่องการใช้ " กำปั้นเหล็ก" ในการปกครองลูก ๆ ช่วงที่เป็นผู้จัดการวงแจ็คสัน ไฟว์ หลายครั้งที่แจ็คสันให้สัมภาษณ์เขาจะพูดถึงเรื่องที่ถูกพ่อทำร้ายและยืนยันความหวาดกลัวที่มีต่อพ่อถึงขั้น " อาเจียน " ออกมา แต่โจยืนยันว่า เขาไม่เคยทำโทษลูก ๆ รุนแรงเกินกว่าพ่อแม่ทั่วไป

เผยผู้กำกับหนังโฆษณาเป็นตัวการให้ แจ็คสันถูกไฟไหม้ผม

เว็บไซต์กอสสิพบันเทิง TMZ.COM ยังได้รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สำนักงานดับเพลิงลอส แองเจลิส ว่า อุบัติเหตุที่ทำให้ไมเคิล แจ็คสัน ถูกไฟลวกระหว่างถ่ายโฆษณาเป๊ปซี่ เมื่อปี 2527 มีสาเหตุมาจากการที่บ๊อบ จิรัลดี้ ผู้กำกับฯ ต้องการให้ได้ภาพที่ตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น โดยดอน โดเนสเตอร์ ซึ่งอยู่ร่วมในการถ่ายทำ ในฐานะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟ เปิดเผยว่า หลังจากถ่ายครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ได้ยินผู้กำกับบอกกับแจ็คสันว่า ให้ยืนอยู่ใต้บริเวณที่พลุไฟ เพราะจะยิ่งทำให้ดูสง่างามมากขึ้น ซึ่งทำให้แจ็คสันต้องยืนอยู่ใต้พลุไฟนานขึ้น ที่จะทำให้เขา ดูคล้ายกับเขาปรากฎตัวออกมาท่ามกลางควันและประกายไฟ

TMZ ได้ติดต่อไปยังจิรัลดี้ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเขาได้แต่ตอบว่าไม่เป็นความจริงและรีบวางสายทันที แต่ในอัตชีวประวัติของแจ็คสัน มีข้อเขียนที่สนับสนุนคำพูดของโดเนสเตอร์ที่ว่า จิรัลดี้ได้บอกกับเขาว่า " ไมเคิล คุณลงมาเร็วเกินไป เราต้องการเห็นคุณยืนอยู่บนบันได เมื่อแสงไฟส่องมา เราต้องการให้เห็นว่าคุณยืนอยู่ตรงนั้น ให้รอก่อน"

โดเนสเตอร์ กล่าวด้วยว่า การตัดสินใจของผู้กำกับได้ละเมิดกฎของผู้ตรวจสอบด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟ และเขาก็กลายเป็นคนหนึ่งที่ช่วยทำให้ไฟไหม้ศีรษะของไมเคิล มีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับแจ็คสัน กล่าวว่า บาดแผลไฟลวกรุนแรงที่แจ็คสันเผชิญ ทำให้เขาติดยาและทำลายชีวิตที่เหลือของเขา

เปิดตัวเพลงใหม่ชื่อ"อะ เพลซ วิธ โน เนม"ของแจ็คสัน

พร้อมกันนี้เว็บไซต์ TMZ.com ซึ่งเป็นสื่อแรกที่รายงานการเสียชีวิตของไมเคิล แจ็คสันราชาเพลงป็อปวัย 50 ปี เปิดตัวเพลงใหม่เพลงหนึ่งของแจ๊คสันเมื่อวันพฤหัสบดี สามสัปดาห์หลังจากเขาเสียชีวิตกระทันหันเมื่อ 25 มิถุนายน โดยทางเว๊ปไซต์รายงานว่าไม่ทราบแน่ชัดว่าเพลงใหม่มีชื่อว่า " อะ เพลซ วิธ โน เนม"(A Place with No Name) บันทึกเสียงไว้ตั้งแต่เมื่อใด แต่ทั้งชื่อเพลง ทำนอง และเนื้อร้อง คล้ายกับเพลงฮิตปี 1971 ที่มีชื่อว่า "อะ ฮอร์ส วิธ โน เนม" (A Horse with No Name) ของวงดนตรีดัง" อเมริกา" (America.)

นาย จิม มอเรย์ ผู้จัดการคนปัจจุบันของวงดนตรี"อเมริกา" เปิดเผยกับทางเว๊ปไซต์ว่า ทางวงรู้สึกเป็นเกียรติมากที่แจ๊คสันเลือกเพลงของพวกเขา และคาดหวังว่าแฟนเพลงของแจ็คสันจะได้ฟังเพลงนี้ ซึ่งมอเรย์เองเคยเป็นผู้จัดการให้แจ๊คสันในช้วงปลายทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 1990 ด้วย

"นีลเซน ซาวสแกน" ที่นครลอสแองเจลีสของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันเดียวกันว่า หลังการเสียชีวิตของแจ๊คสัน มียอดขายอัลบั๊มทั่วโลกของเขาสูงถึง 9 ล้านแผ่นแล้ว รวมทั้ง 2.3 ล้านแผ่นในสหรัฐฯ ที่เพลงของแจ๊คสันหวนกลับไปติดอันดับสูงๆในชาร์ทอีก เช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เยอรมนี และอังกฤษ ทำให้คาดว่าบริษัทแผ่นเสียงของเขาจะเปิดตัวเพลงหลายเพลงที่เขาบันทึกไว้แล้ว แต่ยังไม่เคยนำออกเผยแพร่

MTV News อ้างถ้อยแถลงของนายโทนี่ มอตโตล่า อดีตเจ้านายของแจ๊คสันที่บริษัท"โซนี่" ว่ามีเพลงใหม่ๆของแจ๊คสันที่จะนำออกเผยแพร่ได้แบบไม่มีจำกัด ย้อนหลังไปได้จนถึงยุครุ่งเรืองของเขาช่วงทศวรรษที่ 1980 มีรายงานด้วยว่า เขาเคยบันทึกเทปร่วมกับศิลปินดังอย่าง "วิล ไอ แอม" ( Will.I.Am ) และ "อาคอน"( Akon) รวมทั้งเคยบันทึกเทปเพลงไว้หลายเพลงร่วมกับ" เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่" นักร้องผู้ล่วงลับของวงดนตรีชื่อดัง"ควีน"ของอังกฤษด้วย