วิกฤติยานยนต์ทำโรงงานชิพป่วน

เอ็นเอ็กซ์พี แจงยอดขายรถตก ทำยอดผลิตชิพวูบตาม แต่ไตรมาส 2-3 นี้มีคำสั่งซื้อกลับคืนมาแล้ว คาดอนาคตปรับแผนผลิตชิพสำหรับอิเล็ก ทรอนิกส์มากขึ้น

นายธีโอ ฮาวเดอร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอ็นเอ็กซ์พี ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ เปิดเผยว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกลดลงถึงร้อยละ 20 ทำให้บริษัทจำต้องลดการผลิตชิพสำหรับยานยนต์ ถึงร้อยละ 60 แต่ในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ มีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาแล้ว ความผันผวนของอุตสาหกรรมรถยนต์ครั้งนี้อาจทำให้ต้องพิจารณาปรับสัดส่วน จากการผลิตชิพ ที่ใช้ทั่วไปร้อยละ 50 ใช้กับรต์ร้อยละ 30-35 และกับบัตรสมาร์ทการ์ด ร้อยละ 15 แต่ในระยะ 1-2 ปีนี้ยังคงผลิตตามเดิม

คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ปีหน้าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตามรถยนต์ในปัจจุบันอาจผลิตน้อยลง แต่จะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น จึงเชื่อว่าการผลิตชิพจะเพิ่มขึ้น

ข่าวแจ้งว่าในช่วงต้นปี 2552 บริษัทได้จัดโครงการให้พนักงานสมัครใจลาออกราว 400 คน จากจำนวน 3,200 คน แต่อีกสี่เดือนต่อมามีคำสั่งซื้อจำนวนมาก จึงรับกลับเข้าทำหน้าที่ โดยนายธีโอชี้แจงว่า ช่วงแรกที่มีปัญหาไม่ได้ปลดพนักงานทันที แต่ใช้วิธีย้ายแผนกและจัดฝึกอบรมงานใหม่ เมื่อยังไม่ดีขึ้นก็ลดวันทำงาน และที่สุดจำเป็นต้เลิกจ้าง ก็เลือกเฉพาะพนักงาน ชั่วคราว

สำหรับเอ็นเอ็กซ์พี (www.nxp. com) เป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ ในเครือบริษัทฟิลิปส์ คอนดักเตอร์ ตั้งมากว่า 50 ปี สำนักงานใหญ่อยู่ในทวีปยุโรป มีพนักงานกระจายอยู่ 30 ประเทศทั่วโลก จำนวน 30,000 คน ผลิตภัณฑ์หลักเป็นเซมิคอนดักเตอร์ โซลูชั่นและซอฟต์ แวร์ สำหรับระบบภาพและเสียงในโทรทัศน์ ระบบระบุเอกลักษณ์บุคคล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์.