เข้าใจแตกต่าง

การพบปะ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้น ง่าย ๆ ระหว่างนายกฯอินเดียและปากีสถานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยุติลงด้วยคำมั่นที่จะร่วมมือกันปราบปรามการก่อการร้าย แต่ที่บ้านในกรุงนิวเดลี กลับก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างมาก

คำมั่นนอกรอบการประชุมสุดยอด กลุ่มประเทศไม่ฝัก ใฝ่ฝ่ายใด (นาม) ที่อียิปต์ หลายส่วนในแวดวงสื่อ บรรดาพรรคฝ่ายค้านและนักวิเคราะห์ อินเดีย รวมหัวกันจวกแหลกสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นการอ่อนข้อของนายกฯมานโมฮัน ซิงห์ ให้แก่นายกฯยูซุฟ ราซา กิลานี แห่งปากีสถาน

ชนวนเหตุมาจากแถลงการณ์ร่วมของผู้นำทั้งสอง ที่กำหนดเงื่อนไขว่าปฏิบัติการต่อสู้กับการก่อการร้าย ไม่ควรที่จะเชื่อมโยงกับการเจรจาสันติภาพระหว่างปรปักษ์นิวเคลียร์แห่งเอเชียใต้

นักวิเคราะห์ตีความว่า เป็นการกลับลำ ของอินเดีย ที่ก่อนหน้านั้นยืนกรานเสียงแข็งว่า การเจรจาสันติภาพจะมีขึ้นอีกครั้ง ก็ต่อเมื่ออิสลามาบัดนำตัวผู้รับผิดชอบเหตุโจมตีนครมุมไบ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 166 ศพ มาขึ้นศาลก่อนเท่านั้น

ปากีสถานได้เปรียบ ไทม์ส์ ออฟ อินเดีย พาดหัวไม้ ขณะที่เมล์ ทูเดย์ ซึ่งเป็นฉบับแท็บลอยด์โวยว่า นายกฯขาย (ตัว) ให้ปากีฯ ทั้งนี้อินเดียกล่าวหาว่าเหตุถล่มนครการเงินมุมไบ เป็นฝีมือของนักรบซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในปากีสถาน และอาจได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการของปากีฯด้วย

ระหว่างประชุมรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แอล.เค.อัดวานี ผู้นำฝ่ายค้านยืนกรานว่านายกฯ ยอมจำนน ในขณะที่ซิงห์อ้างว่าในแถลงการณ์นั้น ไม่มีส่วนใดเลยที่แสดงว่าจุดยืนของอินเดียอ่อนแอลง พร้อมให้สัญญาว่าจะไม่มีการรื้อฟื้นการเจรจาที่มีความหมายใด ๆ อย่างแน่นอน จนกว่าปากีสถานจะทำ ตามพันธกรณีที่จะลากคอคนร้ายที่โจมตีมุมไบมาขึ้นศาล และปราบปรามค่ายฝึกนักรบหัวรุนแรง

อัดวานีตอบสนองด้วยการนำหน้าส.ส.ฝ่ายค้าน วอล์กเอาต์ จากรัฐสภา

นักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ประทับใจพอ ๆ กัน จี.ปาร์ธซาร์ธี อดีตทูตพิเศษของอินเดียประจำปากีสถานบอกว่า ในเมื่อทำ 5 แต้ม ทางการทูตไปแล้ว ก็ควรจะยอมรับ ลาลิต มานซิงห์ อดีตรมต.ต่างประเทศอินเดียบอกว่า นายกฯทั้งสองคนตีความหมายกันไปคนละทาง ซึ่งเป็นเรื่องน่าอาย

อินเดียและปากีสถานเริ่มต้นกระบวน การสันติภาพในปี 2547 เพื่อแก้ปัญหากรณีพิพาทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงกรณีพิพาทดินแดนแคว้นแคชเมียร์แถบเทือกเขาหิมาลัย อินเดียยกเลิกการเจรจาไปหลังการโจมตีมุมไบ ต่อมารัฐบาลของซิงห์ถูกกดดันอย่างหนักภายในบ้านตัวเอง ให้ลงมือแก้แค้น

อย่างไรก็ตาม อูเดย์ บาสการ์ นักวิเคราะห์ยุทธศาสตร์จาก กรุงนิวเดลีกลับมองว่า ปฏิกิริยาโกรธแค้นเป็นเรื่องที่ขาดเหตุผล และว่าที่จริงแล้ว (แถลงการณ์ของซิงห์) ทำให้จุดยืนของอินเดียยิ่งเข้มแข็งมากขึ้นต่างหาก

บาสการ์บอกว่า จากแถลงการณ์พอจะพูดได้เลยว่า ปากีสถานจะต้องเดินหน้าต่อไปกับการสอบสวนคดีโจมตีมุมไบ และคงจะไม่เอามาเป็นข้ออ้างในการเรียกร้องว่า อินเดียและปากีสถานต้องแก้ปัญหาพิพาทแคชเมียร์ก่อนแน่นอน ปากีสถานประกาศว่าจะนำตัวผู้ต้องสงสัย 5 คน รวมทั้งซาคิดุดดิน ลัคห์วี ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีมุมไบขึ้นศาลในเร็ว ๆ นี้

ซิงห์ดูเหมือนจะพอหายใจทั่วท้องได้หน่อยเมื่อวันเสาร์ เมื่อนางฮิลลารี คลินตัน รมต.ต่างประเทศสหรัฐ ที่เดินทางเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันศุกร์กล่าวว่า เธอประทับใจอย่างมากในการพบปะกันระหว่างซิงห์และกิลานีที่อียิปต์ ทั้งมองแถลงการณ์ที่จะร่วมมือกันต่อสู้กับการก่อการร้ายว่า เป็นก้าวบวกไปข้างหน้า.

เลนซ์ซูม