คน.ปล่อยผีอ้างขาดแคลน-จี้รัฐคายสต๊อก แม่บ้านจ๊ากข้าวถุงขึ้นราคา5-10บ.
ผู้ประกอบการได้ปรับขึ้นทั้งราคาขายส่งและขายปลีกข้าว สารหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 ก.ก.ไปแล้วเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขายส่งมีการปรับเพิ่มขึ้นถุงละ 10 บาท คือปรับจากถุงละ 170 บาท เป็น 180 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้นถุงละ 10 บาท เช่นกัน คือปรับราคาจากถุงละ 190 บาท เป็น 200 บาท ส่วนราคาขายข้าวสารเจ้าบรรจุถุงขนาด 5 ก.ก. นั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า อาจ จะต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกถุงละ 5 บาท โดยปรับจากถุงละ 130 บาท เป็น 135 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น นายสมฤกษ์กล่าว
นายสมฤกษ์ กล่าวต่อถึงราคาข้าวสารหอมมะลิและข้าว สารเจ้าประเภทที่มีการตักแบ่งขายซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดการขายประมาณ 60% ซึ่งส่วนใหญ่จะขายในร้านค้าปลีกขนาดเล็กและตลาดสด ว่ามีการปรับราคาขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้วในอัตรา ที่สูงกว่าข้าวสารบรรจุถุงสำเร็จ เนื่องจากร้านค้าปลีกรายย่อยซึ่งจำหน่ายข้าวสารแบบแบ่งขายได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่อนข้างเร็วและรุนแรงกว่า ส่วนแนวโน้มราคาข้าวสารบรรจุถุงในอนาคตจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหาร สต๊อกข้าวของรัฐบาล หากรัฐบาลตัดสินใจระบายข้าวในสต๊อกซึ่งมีจำนวนมากถึง 6-7 ล้านตัน ออกสู่ตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เชื่อว่าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกและข้าวสารในตลาดปรับลดลง ผู้ประกอบการอาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นราคาข้าวถุงอย่างต่อเนื่อง
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ข้าวหอมมะลิค่อนข้างหาซื้อยาก เพราะเป็นช่วงนอกฤดูซึ่งจะมีผลิตออกมาสู่ตลาดเฉพาะช่วงนาปีเท่านั้น รวมทั้งสต๊อกส่วนใหญ่ยังอยู่ในมือรัฐบาล ทำให้ราคาข้าวหอมมะลิปรับราคาเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่สูงถึงราคารับจำนำที่ตันละ 15,000 บาท ส่วนการปรับขึ้นราคาขายส่งและขายปลีกข้าว สารหอมมะลิบรรจุถุงนั้นหากต้นทุนเพิ่มของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นก็สามารถปรับขึ้นราคาได้ เพราะนโยบายหลักของกรมเกี่ยวกับการบริหารราคาสินค้าเกษตรคือปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงด้วยการกดราคาให้สินค้าเกษตรตกต่ำ ประกอบกับข้าวเป็นสินค้าเกษตรที่เกี่ยว ข้องกับชาวนาซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่จะดูแลให้มีการปรับราคาด้วยความเป็นธรรมไม่มีการเอาเปรียบ ทั้งนี้ เชื่อว่าเร็วๆ นี้ รัฐบาลจะประกาศระบายสต๊อกออกสู่ตลาดซึ่งจะทำ ให้ราคาข้าวปรับลดลงแน่นอน
