เสื้อแดงร้องเพื่อไทยยกเลิกผลสอบพัทยา อ้างบิดเบือน-ปธ.กก.เป็นนายประกันให้จำลอง-พธม.

อริสมันต์นำทีมเสื้อแดงยื่นหนังสือร้องเพื่อไทย จี้ยกเลิกผลสรุปอนุกก.สอบพัทยา อ้างบิดเบือน-ละเว้นสอบเสื้อน้ำเงิน ปธ.กก.ยอมรับเคยเป็นนายประกันให้จำลอง-พธม. เพราะได้รับมติจาก40ส.ว. ขัดไม่ได้ เสื้อแดงร้องยกเลิกผลสอบพัทยา

แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมผู้ต้องหาจากเหตุการณ์ชุมนุมที่พัทยา อาทิ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ยื่นหนังสือต่อนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และนายประวัติ ทองสมบูรณ์ ส.ว.มหาสารคาม ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชุมนุมทางการเมือง ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกผลสรุปของคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่เมืองพัทยาและภูมิภาค เพราะเป็นข้อสรุปที่ไม่ตรงกับความจริง

นายนิสิตกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการปรากฏว่ามีเนื้อหาที่คลาดเคลื่อน ผิดไปจากข้อเท็จจริง บิดเบือน เป็นเท็จ ใช้ความรู้สึกและความเห็นส่วนตัว อาทิ การที่ระบุว่าเหตุที่นำไปสู่การล้มประชุมอาเซียนมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมบุกไปที่โรงแรมรอยัลคลิปบีช ซึ่งข้อเท็จจริงกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการไปยื่นหนังสือให้กับผู้นำประเทศอาเซียน เพื่อคัดค้านรัฐบาล แต่กลับถูกกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงินทำร้าย นอกจากนี้ยังได้นำข้อสรุปที่เป็นเท็จไปประกอบกับข้อกฎหมายที่ไม่เข้ากับกรณีนี้มากล่าวอ้างเป็นเหตุให้กลุ่มเสื้อแดงเสียหายอย่างรุนแรงและยังได้ตั้งข้อกล่าวหาและชี้บทลงโทษในการกระทำของกลุ่มเสื้อแดง โดยอ้างว่ากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 127,113 และ 130 ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ชี้มูลความผิด

ซัดปธ.อนุฯมีอคติไม่เป็นกลาง

นายนิสิตกล่าวว่า ส่วนกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงิน อนุกรรมการได้ปัดความรับผิดชอบการสืบค้นทั้งที่เป็นปมเงื่อนสำคัญที่สุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในพัทยา โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ รับสารภาพเองว่าได้นำคนเสื้อสีน้ำเงินมาสกัดกั้นจริง และยังมีตำรวจอีก 600 นาย จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ใส่เสื้อสีน้ำเงินด้วย โดยมีรายชื่อทั้งหมด แต่อนุกรรมการกลับไม่ตรวจสอบกรณีนี้

ขอเรียกร้องให้มีการทบทวนข้อสรุปอนุกรรมการใหม่ และเป็นการสรุปทางเดียว นอกจากนี้แกนนำเสื้อแดงที่อยู่ในเหตุการณ์พัทยาโดยเฉพาะผู้ต้องหาทั้ง 17 คน ไม่ได้มาชี้แจงต่ออนุกรรมการรวมทั้งไม่ได้นำภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจากสื่อทั้งในและต่างประเทศมาประกอบการพิจารณา โดยเฉพาะนายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่เมืองพัทยา และภูมิภาค มีอคติไม่เป็นกลาง เคยอภิปรายตำหนิติเตียนกลุ่มเสื้อแดงมาโดยตลอด นายนิสิตกล่าว

เป็นนายประกันจำลอง-พธม.

ด้านนายอริสมันต์กล่าวว่า อนุกรรมการไม่มีสิทธิมากำหนดโทษพวกตน เพราะไม่เคยเรียกไปชี้แจง ซึ่งนายอโณทัยประธานอนุกรรมการชุดนี้ ทราบว่าเป็นนายประกันให้กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และพวกในคดีบุกยึดทำเนียบรัฐบาล จึงขอเรียกร้องให้ทบทวนผลการศึกษา เพราะพวกตนในฐานะผู้ต้องหาที่จะไปขึ้นศาลในวันที่ 24 สิงหาคม อาจจะทำให้การพิจารณาคดีของศาลมีทัศนคติที่เป็นลบได้

ขณะที่นายขจิตกล่าวว่า จะนำเรื่อเสนอต่อที่ประชุมชุดใหญ่อีกครั้ง แต่อยากให้ไปยื่นเรื่องต่อคณะอนุกรรมการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และรับฟังความคิดเห็น เนื่องจากเปิดรับฟังความคิดเห็นโดยตรงอยู่แล้ว เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มเสื้อแดงเอง ทั้งนี้ผลการตรวจสอบของอนุกรรมการทุกคณะจะต้องผ่านคณะอนุกรรมการการกลั่นกรองที่มีนายประวัติอยู่ด้วยจึงไม่ต้องกังวล

อโณทัยอ้างมติ40ส.ว.ให้ประกัน

ด้านนายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมการ กล่าวว่า การจะยกเลิกผลสรุป ไม่ใช่หน้าที่ของตนจะไปชี้นำ เป็นเรื่องของที่ประชุมใหญ่ ยืนยันคณะอนุกรรมการไม่มีอคติ ทำไปตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ส่วนกรณีระบุว่า อนุกรรมการไม่เคยเชิญแกนนำคนเสื้อแดงในเหตุการณ์ไปชี้แจงนั้น เนื่องจากแกนนำเหล่านี้เคยชี้แจงต่อคณะกรรมการชุดใหญ่แล้วว่าไม่ต้องการล้มการประชุม แต่ต้องการยื่นหนังสือกรณีคนเสื้อน้ำเงินมาทำร้ายเท่านั้น ถ้ามาให้ข้อมูลอีกก็จะซ้ำๆ ไม่เกิดประโยชน์ ขณะที่เรื่องตำรวจ 600 นาย ที่ใส่เสื้อน้ำเงิน ไปขัดขวางคนเสื้อแดง เป็นเพียงตำรวจที่อยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น แต่ไม่ได้ไปที่พัทยา เรื่องนี้ยังไม่ได้เป็นข้อสรุป เป็นเพียงข้อสังเกต และที่ผ่านมา เมื่อเชิญตำรวจทั้ง 600 นายมาชี้แจง ก็ได้รับการปฏิเสธจากผู้บังคับบัญชาจึงยังไม่มีข้อสรุป

นายอโณทัยกล่าวอีกว่า การกล่าวหาว่าเคยเป็นนายประกันให้กับ พล.ต.จำลองกรณียึดทำเนียบรัฐบาลจริง เพราะได้รับมติจากกลุ่ม 40 ส.ว. ถ้าไปปฏิเสธคงไม่ได้ แต่กรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่าเป็นกลุ่มพันธมิตร เพราะหลายเรื่องก็ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะการยึดสนามบิน