ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวคำปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง

ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวคำปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวคำปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองให้การช่วยเหลือประชาชน วันนี้ (21 ก.ค.52) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมทักษิณาลัย โรงแรมสยามธานี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จัดพิธีการกล่าวปฏิญาณตนและอบรมปฐมนิเทศผู้พิพากษาสมทบ จำนวน 19 คน ที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งการจัดพิธีกล่าวปฏิญาณตนในครั้งนี้ ได้กระทำต่อหน้านางพฤษภา พนมยันตร์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยมีนายบุญสวัสดิ์ ชวลิตกุล เป็นผู้แทนในการกล่าวนำ ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 26 วรรคท้าย บัญญัติว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบ จะต้องปฏิญาณตนต่อหน้าอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ที่ตนจะเข้าสังกัดแล้วแต่กรณีว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรมและรักษาความลับในราชการ นางพฤษภา พนมยันตร์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า การเป็นผู้พิพากษาสมทบ ถือเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ ตามประมวลกฎหมายอาญา และมีหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดี ดังนั้นผู้พิพากษาสมทบจึงต้องมีจริยธรรมและมีวินัย ทำนองเดียวกับผู้พิพากษา ต้องมีอุดมการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเที่ยงธรรม ความเป็นกลาง ปราศจากอคติ ซึ่งนับจากสิ้นเสียงคำกล่าวปฏิญาณตน ถือว่าได้เป็นผู้พิพากษาสมทบครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎหมาย สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที และขอให้ยึดมั่นในคำปฏิญาณตนอย่างเคร่งครัด พร้อมกับนำความรู้ความสามามรถไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วง เพื่อคุ้มครองให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook