เตือนห้ามใส่แว่นกันแแดด-กล้องทางไกลดูสุริยุปราคา

เตือนห้ามใส่แว่นกันแแดด-กล้องทางไกลดูสุริยุปราคา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ถึงกรณีปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม ว่า สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แม้ประเทศไทยจะเห็นเพียงบางส่วน ซึ่งสธ. มีความเป็นห่วงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากดูปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ถูกวิธี เนื่องจากแสงของดวงอาทิตย์มีความร้อนสูงและมีรังสีอัลตราไวโอเลต สามารถทำลายเซลล์จอประสาทตาบริเวณจุดรับภาพได้

นพ.สุพรรณ กล่าวว่า วิธีการดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง จะต้องมองผ่านแผ่นฟิล์มชนิดพิเศษที่ใช้ในการมองดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายกล้องทั่วไป หรือร้านขายอุปกรณ์ดาราศาสตร์ แผ่นฟิล์มที่ดี จะต้องมืดสนิท สามารถกรองแสงได้ดี ต้องไม่มีรู หรือมีรอยขีดข่วน เนื่องจากจะเป็นช่องให้ลำแสงผ่าน เป็นอันตรายต่อเซลล์จอประสาทตาได้

"การดูสุริยุปราคาผ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ขาวดำ หรือกระจกรมควัน ถือว่ายังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ แต่หากจะใช้ขอแนะนำให้เพิ่มเ ชั้น เพื่อกรองแสงให้ได้มากที่สุด ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่ควรนำมาใช้ดูสุริยุปราคาเลย คือ แว่นกันแดด เพราะมีความดำไม่เพียงพอ รวมทั้งกล้องส่องทางไกล ก็ไม่ควรนำมาใช้เช่นกัน เนื่องจากกล้องชนิดนี้จะรวมแสงเข้าสู่ตาโดยตรง ซึ่งเป็นอันตรายมาก ทั้งนี้หากหลังชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาแล้ว เริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน โฆษก สธ. กล่าว

นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า การดูสุริยุปราคาให้ปลอดภัยต่อดวงตา ควรดูเฉพาะตอนที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่แสงจ้าน้อยที่สุด และใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาที โดยหยุดมองก่อนสิ้นสุดการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเล็กน้อย ไม่ควรดูสุริยุปราคาในขณะที่กำลังคลายออก เนื่องจากดวงตามีโอกาสได้รับคลื่นความร้อนและรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้มาก ทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้ โดยมีอาการสำคัญคือ ตาพร่ามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมองเห็นจุดดำอยู่ตรงกลางภาพ อาจมีอากาู้แสงไม่ได้ หรือปวดศีรษะบริเวณหว่างคิ้วหรือหลังลูกตา ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดหลังจากจ้องดูสุริยุปราคาไปแล้ว 1 ชั่วโมง และจะดีขึ้นภายใน 1 เดือน หรืออาจนานถึง 6 เดือน

"การที่ดวงตาได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตโดยตรง จะส่งผลเสียในระยะยาว ทำให้จอประสาทตาเสื่อมไวกว่าคนทั่วไป หรืออาจถึงขั้นตาบอดได้ ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสายตาอยู่แล้ว เช่น โรคต้อกระจก โรคตาแห้ง เยื่อบุตาอักเสบเรื้อรัง ห้ามดูสุริยุปราคาเด็ดขาด แม้จะใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานส่องดูก็ตาม เพราะจะทำให้อาการของโรคที่เป็นอยู่ รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากคลื่นความร้อนจากรังสีอัลตราไวโอเลต จะทำลายที่จอประสาทรับภาพโดยตรง เรียกว่า เรติน่า เบิร์น (Retina burn) ส่งผลให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้น นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook