มาร์คลั่นไร้ปัญหาลุยคดียิงสนธิ ปัดต่ออายุธานีถ้าเกษียณก่อน ดีเอสไอเล็งตั้งคกก.สอบเบิกรถ

มาร์คลั่นไร้ปัญหาลุยคดียิงสนธิ ปัดต่ออายุธานีถ้าเกษียณก่อน ดีเอสไอเล็งตั้งคกก.สอบเบิกรถ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกฯยันไม่มีปัญหาเดินหน้าคดียิงสนธิ ระบุต้องรวบรวมพยานหลักฐานขยายผล ปัดต่ออายุหากธานีเกษียณก่อนสาวถึงตัวคนบงการ ดีเอสไอเล็งตั้งคกก.สอบสุรศักดิ์เบิกใช้รถทะเบียน สษ 1785 พบผิดระเบียบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความมั่นใจในการสาวหาตัวผู้บงการคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หลังประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าอย่างที่ได้ย้ำไปแล้วว่า ตนและ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนได้คุยกันเป็นระยะๆ ก็ยังไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรในการเดินหน้าคดี

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานีระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถหาตัวผู้บงการได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องทำไปตามพยานหลักฐาน ก็ต้องเริ่มจากตัวผู้ปฏิบัติการก่อน จากนั้นค่อยๆ ขยายผลต่อไป การเชื่อมโยงหรือข้อสันนิษฐานต่างๆ เป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่ต้องเดินหน้าในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น

เมื่อถามว่า ถ้าหาก พล.ต.อ.ธานีเกษียณอายุราชการไปก่อนที่จะสาวหาตัวผู้บงการได้จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็พยายามเร่งรัดกันอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่าจะถึงขั้นต้องต่ออายุราชการให้ พล.ต.อ.ธานีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การต่ออายุต้องมีกฎหมายรองรับ ซึ่งเข้าใจว่าขณะนี้ไม่มีกฎหมายอะไรรองรับ เพราะฉะนั้นพยายามเร่งรัดคดีต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พ.อ.สุรศักดิ์ เรื่องการเบิกใช้รถยนต์ ทะเบียน สษ 1785 กรุงเทพมหานคร เพราะมีหลักฐานปรากฏว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ เซ็นชื่อเบิกใช้รถคันดังกล่าว 2 ครั้ง และ พ.อ.สุรศักดิ์ ณ ลำปาง ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ เป็นผู้ลงนามอนุมัติแทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ซึ่งผิดระเบียบ เพราะตามขั้นตอนตามปกติแล้ว การเบิกใช้รถยนต์ของดีเอสไอผู้บัญชาการสำนักคดีฯทำเรื่องขอให้อธิบดี หรือรองอธิบดีที่ดูแลสำนักคดีต่างๆ ที่รับผิดชอบ อนุมัติก่อนนำรถออกไปใช้ แต่กรณีรถยนต์คันดังกล่าว พบว่า พ.อ.สุรศักดิ์ เป็นผู้ลงนามอนุมัติให้ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีดังกล่าว เบิกไปใช้งาน ทั้งนี้ ยังพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวถูกเบิกใช้งานเป็นประจำ โดยแจ้งว่ามีภารกิจต่อเนื่อง และจะส่งเพียงเอกสารมายังเจ้าหน้าที่ทุก 15 วัน ว่ารถยนต์ยังใช้งานในภารกิจ นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรถปฏิบัติการและอาวุธทำบัญชีเบิกใช้ ย้อนหลัง 3 เดือน เพื่อทำรายงานเสนอนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

สำหรับ พ.อ.สุรศักดิ์ เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักสะกดรอย ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ แทน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ ที่ขยับเป็นรองอธิบดีฯ พ.อ.สุรศักดิ์ มีความเชี่ยวชาญด้านการข่าว ก่อนโอนย้ายสังกัดดีเอสไอ เคยรับราชการอยู่ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook