บรรยากาศการดูสุริยุปราคาในอินเดียกับจีนคึกคัก เมืองกรุงแห้วเจอเมฆฝนปกคลุมต้องดูจากทีวี
สุริยุปราคาเต็มดวงนั้น เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากพื้นโลก จะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้าไปบดบังดวงอาทิตย์ปรากฎการณ์ที่น่าตื่นเต้นครั้งนี้ จะใช้เวลายาวนานมากกว่าปกติ ที่เรียกว่าสุริยุปราคาเต็มดวง เนื่องจากดวงจันทร์จะเคลื่อนเข้าบดบังดวงอาทิตย์ทั้งหมด ซึ่งใช้เวลา 6 นาที และ 39 วินาที และปราฎการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก จนกว่าจะถึงปี 2675
ทั้งนี้ สุริยุปราคาเริ่มต้นเมื่อเงามัวของดวงจันทร์เริ่มแตะผิวโลกในเวลา 06.58 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดีย จากนั้นศูนย์กลางเงามืดเริ่มแตะผิวโลกในเวลาประมาณ 07.53 น. ในบริเวณอ่าวแคมเบย์ซึ่งอยู่ทางชายฝั่งด้านทิศตะวันตก ซึ่งที่นี่จะเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงขณะดวงอาทิตย์ขึ้น นานถึง 3 นาที 9 วินาที จากนั้นเงามืดเคลื่อนไปทางตะวันออก ผ่านเนปาล บังกลาเทศ ภูฏาน และตอนเหนือสุดของพม่า เข้าสู่ประเทศจีนในเวลาประมาณ 08.05 น. โดยผ่านเฉิงตูและนครเซี่ยงไฮ้
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากสภาพอากาศไม่เป็นใจท้องฟ้าปิดในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้ประชาชนต่างผิดหวังไม่สามารถชมปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 07.06 น. รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อสมท ถ่ายทอดสดปรากฏการณ์สุริยุปราคา บางส่วนให้ผู้ชมทางบ้านได้เห็น ช่วยคลายความผิดหวังได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมฆที่ปกคลุมและฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องได้เป็นอุปสรรคสำหรับนักดาราศาสตร์และนักดูดาวสมัครเล่น ที่ไปรวมตัวกันตามถนนสายต่างๆในเมืองท่าสุรัต ทางตะวันตกของอินเดีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องเจียระไนเพชร และมีประชากรหนาแน่น เพื่อดูการเกิดสุริยุปราคายาวที่สุดในศตวรรษที่ 21 โดยการเกิดสุริยุปราคาครั้งนี้ เงามืดจะพาดเป็นระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ผ่านแนวพื้นที่ภาคตะวันตก ภาคกลางและภาคตะวันออกของอินเดีย, ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเนปาลและภูฎาณ รวมทั้งส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของบังคลาเทศ พม่า ก่อนเข้าสู่จีน แต่พื้นที่ที่มองเห็นปรากฎการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงที่สุดคืออินเดีย บริเวณรัฐพิหาร ที่นักท่องเที่ยวและนักวิทยาสตร์พากันไปปักหลักคอยดูปรากฎการณ์ ส่วนอีกหลายพันคนเฝ้าดูอยู่แต่ในบ้าน เพราะความเชื่อว่าเป็นลางร้าย ซึ่งช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่เงาของดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์ ผู้ที่เชื่อโชคลางในอินเดียจะไม่ยอมทำอาหารหรือรับประทาน ขณะที่บางคนนั่งสวดมนตร์ ส่วนชาวฮินดูหลายพันคนพากันไปยังเมืองพาราณสี เพื่อชำระร่ายกายและจิตใจที่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ส่วนในกรุงนิวเดลีเห็นปรากฎการณ์นี้ประมาณ80 เปอร์เซ็นต์
ส่วนที่ประเทศจีน พวกนักดูดาวสมัครเล่นและนักดาราศาสตร์พากันไปเฝ้าดูสุริยุปราคา แม้จะเกิดเมฆหนาในบางพื้นที่และอาจเกิดฝนตกประปราย นครเซี่ยงไฮ้ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ยอดนิยมในการดูสุริยุปราคา ขณะที่นักพยากรณ์อากาศเตือนว่าอาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง แต่คนที่ต้องการดูสุริยุปราคายังเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งเมืองหางโจว ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าท้องฟ้าโปร่งพอจะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง แต่ทิเบตมีเมฆหนาทึบ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญตั้งความหวังว่าประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำแยงซี และทางตะวันออกของจีน จะได้เห็นปรากฎการณ์ครั้งนี้อย่างชัดเจน
นักดาราศาสตร์โบราณของจีนเริ่มบันทึกการเกิดสุริยุปราคาครั้งแรก เมื่อ 4 พันปีก่อน และครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่า เป็นลางบอกเหตุแห่งหายนะ ซึ่งผู้ที่เชื่อถือโชคลางต่างเชื่อว่าจะตามมาด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือไม่ก็การล่มสลายของราชวงศ์
รัฐบาลจีน ได้ออกแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องระหว่างสุริยุปราคาและการเกิดแผ่นดินไหวแต่อย่างใด ส่วนในบางพื้นที่เช่นกรุงปักกิ่งและเกาะฮ่องกง จะได้เห็นประมาณ 73-75 เปอร์เซ็นต์ มีนักท่องเที่ยวบางคนวางแผนปีนขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ อี้เหม่ย เพื่อดูปรากฎการณ์ครั้งสำคัญนี้
ในการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง วันนี้ มีการทำนายทางโหราสาสตร์ เกี่ยวกับผลกระทบ ที่จะเกิดจากปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า การเกิดสุริยุปราคา ครั้งนี้ เกิดในราศีกรกฎ ธาตุน้ำ จะก่อให้เกิดอุทกภัย จึงควรระมัดระวังเรื่องน้ำท่วม และแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นการเกิดยาวนานที่สุด ในศตวรรษที่ 21 นั้น จะมีอิทธิพลต่อมหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง แต่ในส่วนของประเทศไทย จะเห็นปรากฏการณ์บางส่วน ความรุนแรงก็จะลดลง