ธปท.เล็งปรับเป้าศก.ฝันครึ่งปีหลังฟื้น คาดสินเชื่อแข่งดุ-กรุงไทยพร้อมปล่อยกู้3.5แสนล.

นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจครึ่งหลังของปีมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น และอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ จึงไม่เป็นแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้การปล่อยสินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวในช่วงที่เหลือของปี เพราะธนาคารพาณิชย์จะกลับมามีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น และยืนยันว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ที่เพิ่มขึ้น 5.5% จากเดือนก่อนหน้าเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราไม่มาก และคุณภาพสินทรัพย์ก็ยังไม่เกิดปัญหา

ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2/52 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ธนาคารมีฐานะเข้มแข็ง โดยเชื่อว่าครึ่งหลังของปีนี้จะเห็นธนาคารพาณิชย์มีการแข่งขันกันปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัย การอุปโภคบริโภค และบัตรเครดิต เพราะสภาพคล่องในระบบสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดถึง 5 เท่า รวมถึงจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากแคบลง แต่ต้องดูความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ด้วย นายบัณฑิต กล่าว

ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ธปท.จะพิจารณาประมาณการเศรษฐกิจใหม่ จากที่คาดไว้ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะติดลบ 1.5-3.5% และคาดว่าปี 53 จะกลับมาขยายตัวได้ 1.5-3.5% และพร้อมดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ 1.25% จะถือว่าต่ำมากและไม่ได้เป็นข้อจำกัดต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่กลับส่งผลดีต่อภาคธุรกิจที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

ส่วนความคืบหน้าโครงการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผ่านธนาคารพาณิชย์ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่มีการปล่อยสินเชื่อเพียง 1,000 ล้านบาท จากวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ยอมรับว่ามีอุปสรรค ธนาคารมีการปรับลดเป้าสินเชื่อ ลดสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ โดยเร็วๆ นี้ จะเชิญตัวแทนกลุ่มภาคอุตสาหกรรม 7-8 สมาคมที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงความต้องการสินเชื่อ และรับฟังปัญหาที่เป็นอุปสรรค

นายบัณฑิต กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเร่งให้ธนาคารรัฐ 6 แห่งและธนาคารกรุงไทยเพิ่มเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อเป็น 1.25 ล้านล้านบาทว่า เชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อการใช้จ่ายของเอกชน และมีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สภาพคล่องของธนาคารรัฐก็มีเพียงพอจากการระดมเงินฝากและการกู้เงินในประเทศ ดังนั้นหากมีระบบการจัดการที่ดีก็ไม่น่าจะมีปัญหา

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ครึ่งปีแรกปีนี้ธนาคารมียอดอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิ 40,000-50,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 4-5% โดยมองว่า ครึ่งปีหลังสินเชื่อจะสามารถเติบโตได้เหมือนช่วงครึ่งปีแรก สำหรับเป้าหมายสินเชื่อที่กระทรวงการคลังมอบให้ธนาคารกรุงไทยเพิ่มจาก 300,000 ล้านบาท เป็น 350,000 ล้านบาทนั้น เชื่อว่าทำได้ และจะทำให้การปล่อยสินเชื่อสุทธิทั้งปีเพิ่มขึ้น 6-7% ตามที่ตั้งเป้าไว้