เจ้าของปิคอัพต้องสงสัยใช้ยิงสนธิ ส่งทนายยื่นขอรถภายใน3วัน ขู่ฟ้องเรียกค่าเสียหายวันละ2พันถ้าไม่คืน

เจ้าของปิคอัพต้องสงสัยใช้ยิงสนธิ ส่งทนายยื่นขอรถภายใน3วัน ขู่ฟ้องเรียกค่าเสียหายวันละ2พันถ้าไม่คืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ทนายความเจ้าของปิคอัพต้องสงสัย ใช้ลอบสังหารสนธิยื่นหนังสือขอรถ อ้างตรวจสอบเสร็จแล้ว ขู่ถ้าไม่คืนใน 3 วัน เตรียมคิดค่าเสียหายวันละ 2 พัน มาร์ครับเป็นพวกอยู่ในราชการ พร้อมเรียกตัวพ.อ.สุนัยหากเกี่ยวข้อง ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า นายครรชิต เกิดจรัญ ทนายความ นายสมนึก ทับโชติ บิดา น.ส.รัศมี เมฆชัย เจ้าของรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเปลือกมังคุด ทะเบียน บธ 14740 ลพบุรี ซึ่งต้องสงสัยเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นพาหนะลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มาที่สำนักงาน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดียิงนายสนธิ เพื่อยื่นหนังสือขอรถยนต์คันดังกล่าวคืน โดยมี พ ล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผบก.ประจำสำนักงาน พล.ต.อ.ธานี เป็นผู้รับหนังสือแทน

ทั้งนี้ นายครรชิตกล่าวว่า นายสมนึกทราบว่าการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่ส่งรถคืน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะมีรถเพียงคันเดียว ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ประกอบอาชีพได้ตามปกติ และรถคันดังกล่าวมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ยิงนายสนธิด้วย ซึ่งนายสมนึกได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปแล้วว่า วันที่เกิดเหตุรถคันดังกล่าวอยู่ในความครอบครองที่บ้านพักใน จ.ลพบุรี

นายครรชิตล่าวอีกว่า การที่ไม่ยอมส่งมอบรถคืน เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่ายึดไว้เพื่อจุดประสงค์ใด จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ส่งรถคืนภายใน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากเลยจากกำหนดแล้วจะคิดค่าเสียหายวันละ 2,000 บาท ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ต้องการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวอีกเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะให้ตรวจสอบทุกเมื่อ

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ธานี ได้เข้ารายงานความคืบหน้าผลการสืบสวนสอบสวนและอุปสรรคในคดีให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบอีกครั้งที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้า จากนั้นนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เป็นการมารายงานภาพรวม คดีมีความคืบหน้า แต่ก็ยังต้องการบางสิ่งบางอย่างเพิ่มเติม ยอมรับว่าพูดคุยกันถึงการแก้ปัญหาอุปสรรคซึ่งกำลังดำเนินการต่อไป พล.ต.อ.ธานีได้ร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมนั้น ก็เพื่อให้ได้ระดมทุกฝ่ายเข้ามาทำเรื่องนี้ได้เต็มที่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การออกหมายก็ต้องดำเนินการเพื่อหาทางจับกุม แต่ถ้าเจ้าตัวไหวตัวทัน มันก็เป็นปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาการติดตามตัวคนร้ายยังมีอุปสรรคอยู่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในภาพรวม พล.ต.อ.ธานีระบุว่า ยังมีอุปสรรคอยู่หลายจุด วันนี้ก็มาพูดคุยและสอบถามไปหลายเรื่อง จะมีการดำเนินการ เมื่อถามว่า แสดงว่าคดีมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องพอสมควร นายอภิสิทธิ์กล่าววา ก็มีผู้เกี่ยวข้อง ก็อย่างที่ทราบกันอยู่ว่าอยู่ในราชการด้วย

ส่วนที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากกองทัพมากน้อยแค่ไหนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้เจาะจงไปที่หน่วยงาน แต่เจาะจงในเรื่องของการทำงานของตัวบุคคลในทีมที่ทำงานและเคยทำงาน สำหรับผมมีหน้าที่ต้องทำให้คดีนี้มีความก้าวหน้าและเรียบร้อยอย่างตรงไปตรงมา และคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน ซึ่ง พล.ต.อ.ธานีบอกว่า น่าจะทำคดีได้ก่อนเกษียณ

เมื่อถามถึงในการสืบสวนสอบสวนคดีมีการระบุชื่อของ พ.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หัวหน้าฝ่ายเสธาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา บอกไปแล้วว่า ถ้าเกี่ยวข้องกับคนหน่วยใดก็ตาม ผู้บังคับบัญชาก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ถ้าสังกัด กอ.รมน. ตนในฐานะ ผอ.รมน.ก็ต้องเป็นคนดำเนินการ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการสั่งการอะไรไปยัง กอ.รมน. เพราะตอนนี้มีเพียงเฉพาะคนที่ออกหมายจับไป ส่วนการขยายผล พล.ต.อ.ธานีรายงานว่า จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook