ฮิลลารีหยอดไทยมิตรเข้มแข็งที่สุดในโลก ขอบคุณจัดงานประชุมอาเซียนเรียบร้อย ซึ้งน้ำใจชาวสยาม

ฮิลลารีหยอดไทยมิตรเข้มแข็งที่สุดในโลก ขอบคุณจัดงานประชุมอาเซียนเรียบร้อย ซึ้งน้ำใจชาวสยาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ฮิลลารีหยอดคำหวานไทยเป็นมิตรเข้มแข็งที่สุด ชูประเทศชั้นนำทางศก.-ยุทธศาสตร์ ขอให้มั่นใจพร้อมเคียงข้างก้าวไปข้างหน้า ขอบคุณจัดประชุมอย่างเรียบร้อย-ซึ้งน้ำใจคนไทย ฮิลลารีชมไทยเป็นมิตรเข้มแข็ง

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูนา ภูเก็ต นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมแถลงข่าวกับนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ หลังการหารือทวิภาคี เป็นเวลา 30 นาทีว่า ได้พูดกันในประเด็นสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นสำคัญของโลก ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับทวิภาคีและระดับอาเซียน โดยเฉพาะภายใต้กรอบการเจรจาระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ เราต่างยืนยันที่จะทำงานในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันอย่างต่อเนื่องต่อไปภายใต้การเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของสหรัฐเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในเอเชียแปซิฟิก และอาเซียนเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และพัฒนาการในภูมิภาค

ด้านนางฮิลลารีกล่าวว่า พูดคุยกันถึงการขยายความร่วมมือระหว่างกันให้กว้างขวางและลึกยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ อย่างที่ตนได้พูดมาแล้วว่า ไทยเป็นประเทศชั้นนำในโลกซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ สหรัฐมีพันธกิจที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยทั้งในเรื่องที่เป็นประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก เราจะร่วมมือกันให้ดีกว่าเดิมในฐานะที่ไทยเป็นมิตรประเทศที่ยาวนานและเข้มแข็งที่สุดที่สหรัฐเคยมีกับประเทศใดๆ ในโลก

พร้อมเคียงข้างไทยก้าวไปข้างหน้า

ในเวลาที่ประเทศไทยมีความคลี่คลายในประเด็นท้าทายทางการเมือง ขอให้ประชาชนคนไทยมั่นใจและเชื่อใจว่าสหรัฐจะทำงานเคียงข้างชาวไทย เพื่อที่จะแสวงหาแนวทางนำพาประเทศไทยไปข้างหน้าภายใต้การเคารพซึ่งวิถีทางประชาธิปไตยของไทย นางฮิลลารีกล่าว

นางฮิลลารียังกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่จัดประชุมครั้งสำคัญนี้ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้การประชุมนี้นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ทั้งยังขอบคุณในน้ำใจไมตรีของคนไทยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะกลับมาไทยอีกในอนาคตเพื่อที่จะทำงานร่วมกันในอันที่จะกระชับและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันในฐานะมิตรประเทศที่ได้พิสูจน์แล้วจากเวลาที่ผ่านมา

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวด้วยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ตนได้หารือทวิภาคีกับหลายประเทศเพื่อวางรากฐานในการทำงานร่วมกันในประเด็นสำคัญๆ ตั้งแต่เรื่องเกาหลีเหนือ พม่า ภัยจากการก่อการร้าย และการค้ามนุษย์ และตนเฝ้ารอที่จะได้ติดตามผลในประเด็นที่ได้คุยกันต่อไป

อาเซียนตั้งกองทุนยาสู้ไวรัส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ครั้งที่ 16 เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยช่วงบ่ายมีการลงนามในเอกสารสำคัญและพิธีปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (เอเอ็มเอ็ม) ครั้งที่ 42 และการประชุมระหว่างรัฐมนตรีอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (พีเอ็มซี) จากนั้นนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานการประชุม แถลงข่าวว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์ท้าทายที่ภูมิภาคต้องเผชิญ ทั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ความมั่นคงอาหาร พลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยที่ประชุมแสดงความมุ่งมั่นว่าจะร่วมกันเผชิญปัญหาด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

นายกษิตกล่าวว่า ที่ประชุมเอเอ็มเอ็มย้ำถึงแนวทางส่งเสริมการรวมตัวในภูมิภาคกับประเทศคู่เจรจา โดยจะร่วมกันพัฒนาเชื่อมโยงคมนาคม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล และการสื่อสารระหว่างประชาชนให้มากขึ้น ทุกประเทศเห็นพ้องว่าการศึกษาและการร่วมกันทำการวิจัยพัฒนา จะเป็นประเด็นสำคัญการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 15 ในเดือนตุลาคมนี้ รวมถึงการใช้เงินทุนป้องกันความเสี่ยงภายใต้ข้อริเริ่มเชียงใหม่เพื่อรับมือวิกฤตทางเศรษฐกิจโลกด้วยกัน นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นตรงกันให้จัดตั้งกองทุนยาต่อสู้ไวรัสและป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ด้วย

ย้ำร่วมมือต่อต้านก่อการร้าย

นายกษิตกล่าวว่า สำหรับผลการประชุมพีเอ็มซีได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาในการเผชิญสิ่งท้าทายในอนาคต และลดช่องว่างการพัฒนาของประเทศระหว่างอาเซียนด้วยกัน โดยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับสหรัฐ นางฮิลลารีได้ลงนามข้อตกลงการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเน้นย้ำว่าจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

นายกษิตกล่าวว่า ส่วนการประชุมเออาร์เอฟทั้งหมดเห็นพ้องว่าควรมีกลไกส่งเสริมความมั่นคง และสร้างความไว้ใจกันในภูมิภาค ที่ประชุมออกเอกสารวิสัยทัศน์ความร่วมมือเออาร์เอฟซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการดำเนินงานของภูมิภาคเพื่อตอบสนองต่อสิ่งท้าทายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนประเด็นพม่า ทุกประเทศแสดงออกด้วยมิตรภาพและความปรารถนาดีที่ต้องการทำงานร่วมกับพม่าในการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย และส่งผ่านความปรารถนาดีนี้ไปถึงรัฐบาลพม่า โดยจะทำงานร่วมกับสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้ประชาธิปไตยในพม่าเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

นายกษิตกล่าวว่า ที่ประชุมยังประณามการก่อการร้ายที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียร่วมกัน และเห็นว่าสิ่งนี้ได้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย โดยจะหารือเพิ่มเติมระหว่างรัฐบาลและในระดับภูมิภาค พร้อมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook