กสม.ดันปรับปรุงโครงสร้างใหม่
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้คณะกรรมการฯจะให้เจ้าหน้าที่มาสรุปเรื่องที่คั่งค้างว่าเป็นเรื่องใดบ้าง และควรจะอยู่ในกลุ่มใด หลังจาก นั้นจึงจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมารองรับ นอกจากนี้จะต้องดูด้วยว่าการร้องเรียนเข้ามายังกรรม การสิทธิฯนั้น เป็นการร้องเข้ามาตามกฎหมายหรือไม่ หรือเรื่องใดเป็นเรื่องที่ร้องโดยบัตรสนเท่ห์ ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าควรรับเป็นเรื่องร้องเรียนหรือไม่ และดูว่าเรื่องใดต้องรีบดำเนินการต่อบ้าง รวมทั้งหลังจากนี้กรรมการสิทธิฯ คงทำงานในเชิงรกมากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องอำนาจการฟ้องคดีแทนผู้เสียหายซึ่งเป็นอำนาจใหม่ของกรรมการสิทธิฯนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 257 ได้ให้อำนาจกรรมการสิทธิฯเสนอเรื่องพร้อมรายงาน ไปยังศาลต่าง ๆ ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และศาลปกครอง ซึ่งการฟ้องนั้นต้องฟ้องเพื่อเอื้อประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งการที่กฎหมายรัฐธรรม นูญเพิ่มอำนาจและช่องทางในการฟ้องศาลให้กับกรรมการสิทธิฯนั้น จะทำให้รายงานของกรรมการสิทธิฯได้รับความสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามการช่วยผู้เสียหายฟ้องในนามส่วนตัวนั้น คงต้องมาดูว่าจะวางหลักเกณฑ์อย่างไร.