ประชุมอาเซียนต้องมีผลปฏิบัติได้
ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งนี้มี การจับตาดูมากที่สุดก็คือ การเดินทางมาร่วมประชุมของนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาว่าสหรัฐจะให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมกับอาเซียนอย่างไรบ้าง เพราะสหรัฐได้ห่างเหินจากอาเซียนไปในช่วงสมัยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ซึ่งได้มีการวิเคราะห์กันว่าทางสหรัฐเป็นห่วงที่จีนได้แผ่ขยายอิทธิพลความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านกับอาเซียนมากขึ้น ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงต้องเข้ามาสร้างความสัมพันธ์กับอาเซียนเพิ่ม มากขึ้นในทุก ๆ ด้านเช่นกัน และก็ได้มีการร่วมลงนามในข้อตกลงด้านมิตร ภาพและความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับอาเซียน
ทุกครั้งของการประชุมอาเซียนจะเห็นภาพของความ สามัคคีและความเป็นปึกแผ่นของประชาคมอาเซียนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยความแข็งแกร่งด้วยกัน โดยประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกที่เข้าร่วมประชุมด้วยมักจะให้ยาหอมแก่อาเซียน และประเทศที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม สำหรับประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งนี้คงจะยิ้มหน้าชื่นได้ เพราะนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พูดในแง่ดีต่อไทยว่าในภูมิภาคอาเซียนนี้ประทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในโลกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันให้ดีกว่าเดิมในฐานะที่ ไทยเป็นมิตรประเทศที่ยาวนานและเข้มแข็งที่สุด
เป็นธรรมดาที่ประเทศเจ้าภาพจะต้องได้รับคำชื่นชม จากประเทศต่าง ๆ ที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วยกัน และผลการประชุมจะมีการลงนามในข้อตกลงของความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาออกมาว่า ได้มีการทำข้อตกลงอะไรบ้างที่จะร่วมมือกันต่อไป อย่างไรก็ดีการลงนามในข้อตกลงต่าง ๆ ที่มีการทำขึ้นมานั้น ไม่อยากให้เป็นข้อตกลงกันในกระดาษเท่านั้น ทั้งประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนจะต้องดำเนินการตามข้อตกลงที่ดี ๆ ร่วมกันนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง รวมทั้งประเทศคู่เจรจาที่ให้ยาหอมในเรื่องความร่วมมือต่าง ๆ ก็ต้องมีการนำไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผลได้อย่างแท้จริงเช่นเดียวกัน.