น้ำทิพย์ลูกสาวคนเล็กเทพเทือกอยากขี่ไม้กวาดไปเรียนฮอกวอตส์

สถาปนิกสาวจากนิวยอร์กลูกสาวคนเล็กรองนายกฯด้านความมั่นคง ชื่นชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้ที่หลงไหลในโลกเวทมนตร์ อยากมีโอกาสไปเรียนที่ฮอกวอตส์บ้าง ภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม ออกฉายให้บรรดาแฟนๆชาวไทยได้ชมกันวันแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นับเป็นความตั้งใจและการพัฒนาของผู้สร้างในการแกะตัวหนังสือถ่ายทอดเป็นภาพ-เสียง-เคลื่อนไหวผ่านจิตนาการของคนไม่กี่คน ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจหรือถูกใจคนทั้งโลกมีทั้งติและชม

ขนาด สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ยังเคยทรงวิจารณ์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในตอน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบันไว้ไม่ดีนัก แต่ในภาคนี้ สำนักวาติกัน ออกมาแสดงความชื่นชม เจ้าชายเลือดผสม เป็นภาคที่ดีที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการผสมผสานของเนื้อหาที่เกินความจริงกับส่วนที่เป็นความจริงได้ลงตัว ทำให้การผจญภัยของตัวเอกของเรื่องดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

สำหรับนักอ่านแล้ว ภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เข้ามาแทรกในจิตนาการแต่ไม่อาจทะลายจิตนาการจากตัวหนังสือที่หลายคนอาจจะคิดไปไกลขนาดว่าไม่มีผู้สร้างหนังค่าหนสามารถสร้างสรรค์ขึ้นมาให้เหมือนกับภาพในจิตนาการของทุกคนได้นอกจากจะ เสก ขึ้นมาเท่านั้น

น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ หรือ บุ๋ม สถาปนิกสาวจากนิวยอร์ก อายุ 25 ปี ลูกสาวคนเล็กของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้หนึ่งที่หลงไหลในเวทมนตร์ ถึงขนาดที่ว่า อยากจะให้มีวิชาเวทมนตร์ในโรงเรียน บอกเล่าในงาน สร้างเด็กไทยให้รักการอ่านด้วยวรรณกรรมระดับโลก จัดโดย นานมี บุ๊คส์

น้ำทิพย์ เริ่มรู้จักหนังสือแฮร์รี่ พอคเตอร์ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย บอกว่าเด็กๆที่นั่นชอบอ่านกันมาก และมีเพื่อนบอกว่าหนังสือเล่มนี้เปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กหลายคนทำให้รักการอ่านมากขึ้น จึงรู้สึกว่า น่าสนใจ

พอได้อ่านแล้วก็เข้าใจทำไมเด็กๆถึงอ่านกันมาก มันตื่นเต้น และรายละเอียดของผู้เขียน ถ่ายทอดได้ดีมากทำให้จิตนาการและเห็นภาพเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น

เล่มโปรดที่ น้ำทิพย์ ชื่นชอบ คือ เล่ม 1 ตอน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ เป็นครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกับตัวละคร พบกับความตื่นเต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโกมนุษย์ และรู้สึกว่ามีอีกโลกหนึ่ง โลกของเวทมนตร์ น่าติดตามมาก แฮร์รี่ เด็กผู้ชายธรรมดาเติบโตมาจนอายุ 11 ปี ถึงจะทราบว่าตัวเองมีเวทมนตร์มีความพิเศษอยู่ในตัว ไม่ใช่เด็กกำพร้าที่มีชีวิตต่ำต้อย และยังมีโอกาสไปเรียนเวทมนตร์ในโรงเรียนฮอกวอตส์

รู้สึกว่าอยากเข้าไปมีโอกาสแบบนั้น อยากไปเรียนวิชาเวทมนตร์บ้าง ทำให้ทุกๆวันมีแต่ความตื่นเต้นยิ่งอ่านยิ่งสนุก นอกจากนี้ยัง ทิ้งท้าย ว่าใครที่ยังไม่ได้อ่านต้องรีบไปหาซื้ออ่านกันที่ร้านหนังสือ นานมี บุ๊คส์

น่าเสียดายที่โลกเวทมนตร์มีแต่ในหนังสือเท่านั้น หากมีจริงป่านนี้ นายสุเทพ รองนายกฯคงตั้ง กระทรวงเวทมนตร์ ขึ้นมาใหม่หรือไม่ก็คงบรรจุ วิชาเวทมตร์ ลงไปในหลักสูตรกันบ้างละงานนี้ หรืออาจต้องย้ายจากฝ่ายความมั่นคงมาดูแลการศึกษาแทน (ฮา..)