แกนนำชาวนายื่นอุทธรณ์สู้คดีม็อบปิดถนน ส.ชาวนาไทยโวยไม่เคยเกิดมาก่อน นำถกร่วมกระทรวงเกษตรฯ
นายอำพลกล่าวว่า การเรียกร้องและการปิดถนนของเกษตรกรก็เพื่อสื่อให้รัฐบาลเห็นสภาพของปัญหาที่เกิดขึ้นในชนบท เป็นการเรียกร้องสิทธิของความเป็นชาวนาและกระดูกสันหลังของชาติ ที่ผ่านมาถูกกดขี่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาดูแล เมื่อชาวนาออกมาเรียกร้องสิทธิบ้างกลับถูกดำเนินคดี ขณะที่มีบุคคลหลายกลุ่มกระทำมากกว่านี้กลับไม่ดำเนินการอะไร ตนเห็นว่าไม่เป็นธรรมมาก เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องการเมือง การปิดถนนก็เป็นเพียงระยะเวลาอันสั้นเพียง 4 ชั่วโมง ยานพาหนะก็สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว บางช่วงรถยนต์ก็ให้ผ่านได้ ขณะนี้ได้ประกันตัวออกมาและยื่นอุธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป
ด้านนายจิรายุ เผ่ากา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดิ (ส.อบจ.) เชียงราย เขต อ.พาน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับการร้องเรียนจากชาวนาจำนวนมาก โดยได้ติดตามการชุมนุมและเคยพากลุ่มชาวนาไปเรียกร้องเรื่องราคาข้าวกับทางจังหวัดและส่วนกลางหลายครั้ง ที่ผ่านมาชาวนาก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย มีบางครั้งที่ใช้สิทธิในฐานะเป็นประชาชนคนไทยบ้าง
คงไม่ไปล่วงละเมิดศาล แต่กลุ่มชาวนาต้องการที่จะได้รับความยุติธรรมบ้าง วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคมผมพร้อมกลุ่มชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 50 คน จะทำหนังสือขอความเป็นธรรม 2 ฉบับ ไปยื่นให้กับหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงราย 1 ฉบับ และศาลอุทธรณ์ภาค 5 อีก 1 ฉบับ ตอนนี้ได้ขอประกันตัวกลุ่มชาวนาที่ถูกจับกุมเป็นวงเงินคนละ 30,000 บาท ซึ่งชาวนาหากันเกือบไม่ได้ และได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว โดยหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลอุทธรณ์
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า การที่ศาลมีคำสั่งให้จำคุกแกนนำชาวนาที่ปิดถนนเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังไม่ได้มีการประสานขอความช่วยเหลือมายังสมาคม หากการจับกุมไม่มีประเด็นการเมืองแอบแฝง เมื่อมีการร้องขอมาก็จะเข้าไปดูแล โดยในวันที่ 27 กรกฎาคม จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เรียกประชุมชี้แจงการใช้วิธีการประกันราคาข้าวแทนการรับจำนำ และจัดทำแนวทางในการพยุงราคาข้าวเปลือกนาปี 2552/2553
การร้องเรียนของชาวนา ก็เป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย และมุ่งที่จะแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เป็นสิทธิที่ทำได้ หากมีการตกลงกันได้ในห้องแอร์ ก็ไม่ต้องดิ้นรนที่จะประชุมภายนอก ก็จะประสานในระดับท้องถิ่นก่อน หากไม่ได้รับความร่วมมือก็จะหารือในระดับส่วนกลางต่อไป