มาร์ค สั่งรัฐรื้อระบบ-ปิดจุดอ่อนคนตายหวัด09 สั่งกระจายยาก่อน2-3ส.ค.

มาร์ค สั่งรัฐรื้อระบบ-ปิดจุดอ่อนคนตายหวัด09 สั่งกระจายยาก่อน2-3ส.ค.

มาร์ค สั่งรัฐรื้อระบบ-ปิดจุดอ่อนคนตายหวัด09 สั่งกระจายยาก่อน2-3ส.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"อภิสิทธิ์"สั่งรื้อระบบปิดจุดอ่อนคนตายหวัด09 กำชับกระจายยาป้องกันเข้าถึงผู้ป่วยโดยเร็ว ผอ.รพ.จุฬาเฝ้าติดตามอาการหญิงวัย 26 ปี ใกล้ชิด คาดลูกน้อยติดเชื้อจากน้ำคร่ำ กทม.หารือจัดหน่วยรพ.เคลื่อนที่สู้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อังกฤษเตรียมสุสานเก่าเก็บศพคนตายถ้าเผาไม่ทัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการไเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กำลังเป็นปัญหาไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่การแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น ตัวเลขที่เห็นพุ่งสูงขึ้น จะมีทั้งที่ประเทศชิลี แคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ รวมทั้งไทย จุดอ่อนที่ยังมีอยู่คือในแง่ของการเสียชีวิต ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำลังเร่งแก้ไข พบว่าหลายรายที่เสียชีวิตนั้นเข้าถึงยาที่เป็นยาเฉพาะ คือโอเซลทามิเวียร์ช้าไป ขณะนี้กำลังปรับปรุงระบบการกระจายยา โดยเฉพาะในระยะหลังการระบาดมีแนวโน้มไปในภูมิภาคมากขึ้น สำหรับรัฐบาลพร้อมที่จะใช้มาตรการต่างๆ ที่เหมาะสมในการบริหารจัดการล่วงหน้า ทั้งเรื่องการสำรอง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีน ยา มีเพียงพอแน่นอน ประชาชนสามารถอุ่นใจได้ว่า รัฐบาลติดตามมาตรการต่างๆ อย่างเต็มที่ แม้แต่องค์การอนามัยโลกยังยอมรับถึงแนวทางและมาตรฐานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา สัปดาห์ที่ผ่านมามีแขกต่างประเทศ แม้กระทั่งทีมลิเวอร์พูลก็เดินทางมาไทย ดังนั้น ชาวต่างประเทศสามารถมาเล่นกีฬา มาประชุมสัมมนาในไทยได้

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือระบบการกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งต้องให้ยาตัวนี้แก่ผู้ติดเชื้อได้เข้าถึงให้เร็วขึ้น ซึ่งไม่น่าจะเกินวันที่ 2 และ 3 หลังจากเริ่มมีอาการ แต่หลายส่วนในภูมิภาคยังไม่สามารถจ่ายยาตัวนี้ได้ จึงต้องปรับแก้บนความพอดี เพราะผู้เชี่ยวชาญไม่อยากปล่อยยาตัวนี้ไปใช้อย่างไม่จำเป็น เนื่องจากจะมีความเสี่ยงเรื่องดื้อยาตามมา บางประเทศเริ่มเจอแล้วแต่ยังไม่รุนแรงมากนัก จากการคุยกับ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. พบว่า ระบบการกระจายยาคงต้องไปที่คลีนิคด้วย ต้องมีวิธีการที่ประชาชนสามารถเข้าถึงยาได้เร็วขึ้น เพราะผู้เสียชีวิตหลายรายที่ติดตามอยู่ ได้รับยาหลังจากที่เริ่มมีอาการได้ 6-7 วันแล้ว บางครั้งเคยได้รับการรักษาพยาบาล 1-2 ครั้ง วนเวียนอยู่ในที่ที่ไม่มียาตัวนี้ จึงต้องสำรองวัคซีนและยาดังกล่าวแล้ว ขอย้ำว่าต้องบริหารจัดการและต่อสู้กับเรื่องนี้ยาวไปจนถึงปี 2553

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า การติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ดังนั้น การรายงานตัวเลขการติดเชื้อกันตอนนี้ ไม่มีความหมาย เพราะองค์กรอนามัยโลกบอกแล้วว่าไม่ต้องรายงาน อีกทั้งไม่มีความจำเป็นต้องส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ เพราะจะทำให้เสียเวลาและทรัพยากร รวมถึงไม่ได้ช่วยเรื่องการรักษาพยาบาล แต่ให้รักษาไปตามอาการได้เลย

ส่วนกรณีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ระบุมีหญิงชรา อายุ 88 ปี ใน จ.แพร่ เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การวิจารณ์ว่านโยบายหรือการบริหารจัดการของรัฐบาลมีจุดอ่อนตรงไหน อยากให้ฝ่ายค้านนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันว่ามีปัญหาอะไร ผู้ที่สังเกตการณ์ในต่างประเทศบอกว่า มีไทยเพียงประเทศเดียวที่นำเรื่องนี้มาเล่นการเมืองมากที่สุด อยากขอว่าเรื่องนี้ให้ช่วยกันทำงานดีกว่า เพราะไม่เชื่อว่ามีพรรคการเมืองใด หรือนักการเมืองคนใดอยากเห็นประชาชนเสียชีวิตจากโรคระบาด

ขณะที่ รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จุฬาลงกรณ์ แถลงถึงการรับตัวหญิงอายุ 26 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี เข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังจากก่อนหน้านี้แพทย์ รพ.ราชบุรี ได้ผ่าตัดทำคลอดหญิงรายดังกล่าว เพื่อช่วยชีวิตทารกที่อายุครรภ์เพียง 7 เดือน เนื่องจากพบว่าเชื้อได้แพร่ไปสู่ทารกในครรภ์ว่า รพ.จุฬาฯได้รับการส่งต่อผู้ป่วยหญิงดังกล่าวด้วยเฮลิคอปเตอร์ตั้งแต่ช่วงเวลา 23.00-24.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนั้น ผู้ป่วยมีภาวะปอดอักเสบทั้งสองข้าง ต้องพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจระดับค่อนข้างสูงร่วมกับยานอนหลับ และยาต้านไวรัสโอเซลทามีเวียร์ ซึ่งการให้ยานอนหลับจะช่วยให้เครื่องช่วยหายใจทำงานได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และระบุไม่ได้ว่าจะให้ออกจากห้องไอซียูได้เมื่อใด

"คาดว่า เด็กทารกติดเชื้อจากน้ำคร่ำของมารดา เพราะขณะคลอดถุงน้ำคร่ำฉีกขาด อาจไปสัมผัสถูกตัวเด็ก หรือเด็กอาจสำลักน้ำคร่ำก็เป็นได้ ภาวะดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่ของโลก เพราะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่งอุบัติขึ้น และการติดเชื้อดังกล่าวจากแม่ไปสู่ลูกก็ยังไม่เคยพบมาก่อน ที่สำคัญยังไม่มีการศึกษาว่า ภาวะดังกล่าวจะส่งผลข้างเคียงต่อทารกอย่างไร โดยเฉพาะทางสมอง ถือเป็นกรณีศึกษารายแรกของประเทศไทย เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อน ส่วนจะเป็นรายแรกของโลกหรือไม่ ต้องมีการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เท่าที่ทราบยังไม่เคยพบที่ใดเช่นกัน"รศ.นพ.อดิศรกล่าว

รศ.นพ.อดิศรแถลงอีกว่า การที่ รพ.จุฬาฯรับเฉพาะแม่ของเด็กมารักษานั้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของ รพ.ราชบุรี ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ส่วนทารกเพศหญิงของผู้ป่วยที่ผ่าท้องคลอดก่อนกำหนดนั้น ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชบุรี อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ดังนั้น ขอให้ดูแลตัวเองให้ดีไม่ให้ติดเชื้อ หากมีอาการเป็นไข้หวัดควรรีบไปพบแพทย์ใน 48 ชั่วโมง และควรสวมหน้ากากอนามัยในที่ชุมชน หมั่นล้างมือบ่อยๆ หรือจะใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือก็ได้

นพ.สมชาย พีระปกรณ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่ากรณีนี้นับเป็นรายแรกของโลกหรือไม่ เพราะโรคนี้เป็นโรคใหม่ การจะรวบรวมข้อมูลต้องค่อยๆ สะสม แต่เชื่อว่าเร็วๆ นี้ องค์การอนามัยโลกจะออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้ว่าแต่ละประเทศควรรับมืออย่างไร กรณีนี้ รพ.จุฬาฯ ไม่จำเป็นต้องรายงานไปยังองค์การอนามัยโลกโดยตรง แต่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ทันที รวมทั้งหากมีข้อมูลทางวิชาการมายืนยันอาจจะจัดทำเป็นรายงานและตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ได้เช่นกัน

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังลงพื้นที่รณรงค์แจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือป้องกันการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 บริเวณตลาดนัดจตุจักร ว่า ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ กทม.จะหารือถึงแนวทางการดำเนินการโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาล 9 แห่ง ในสังกัด กทม. เพื่อทำงานเชิงรุกในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ กทม.ยังกำชับผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังกัด กทม.ทุกแห่ง ให้ดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนรายที่ จ.ราชบุรี

ขณะที่ นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. เดินทางไปรณรงค์รู้ทันเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 และมอบนโยบายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ อ.ประทาย อ.โนนแดง และ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยนายมานิตกล่าวว่า อสม.กว่า 980,000 คนทั่วประเทศ จะเป็นกำลังเสริมการคัดกรองผู้ป่วย โดยจะออกเยี่ยมบ้านในความรับผิดชอบ 10-15 หลังคาเรือน สัปดาห์ละ 3 วัน ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ทางคณะกรรมการเมืองเอ็กเซเตอร์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ แถลงว่า เอ็กเซเตอร์กำลังพิจารณาใช้หลุมฝังศพใต้ดินศตวรรษที่ 19 เป็นที่เก็บศพชั่วคราวผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 หรือเอช 1 เอ็น 1 ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกหากไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวระบาดไปทั่วและมีผู้เสียชีวิตมากจนสุสานเต็มและไม่ทันเผาศพ ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 100,000 คนขณะที่ทางการได้เปิดเว็บไซต์ใหม่และเปิดบริการทางโทรศพท์ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อและช่วยเหลือในเรื่องยา

อังกฤษยังเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 มากที่สุดในยุโรปโดยเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 30 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 72 คนและไปรักษาตัวในโรงพยาบาลราว 2,000 คน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook