วิภาวดี 222

วิภาวดี 222

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ราย 3 วัน ฉบับที่ 2,447 ระหว่างวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2552

..................... ผ่านไปแล้ว สุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดในรอบ 1,000 ปี โดยไม่มีอาถรรพ์ตาม

คำทายทักของหมอดูที่เดาไว้ก่อนหน้านี้ จะเสียดายก็แต่คนกรุงเทพฯไม่มีโอกาสชม ปรากฏการณ์ธรรมชาติครั้งสำคัญ เพราะฝนฟ้าไม่เป็นใจ

...................... หลายคนยกตัวเลขงบประมาณที่รัฐบาลใช้ในการต้อนรับ ดูแล และป้องกัน รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนบวกสามบวก ฮิลลารี คลินตัน ขึ้นมาวิจารณ์รัฐบาลว่าจ่ายแพงเกินไป แต่ นกหวีด ถือว่าคุ้มจริงๆ เมื่อแลกกับความเชื่อถือที่จะได้คืนกลับมา หลังแตกกระจาย

จากการประชุมที่พัทยา

...................... ส่วนผลการประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศ สมาคมประเทศชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 47 หรืออาเซียนบวกสาม ที่ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงร่วมกันจากที่ประชุม เกือบทั้งหมดคือ ยินดีกับความคืบหน้าในโครงการที่เคยตกลงร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งร่วมประณามผู้ก่อการร้ายที่ลอบวางระเบิดโรงแรมหรูในกลางกรุงจากาตาร์

......................... ส่วน มาดามคลินตัน ที่แวะไทยแค่คืนเดียว แต่โปรยยาหอมจนฟุ้ง ทำเนียบรัฐบาล ไทยยังมีศักยภาพที่จะนำภูมิภาคอาเซียนไปสู่ความรุ่งเรือง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง นกหวีด หวังว่า นายกฯอภิสิทธิ์ สามารถแยกความแตกต่างระหว่างคำหวานทางการทูต กับการปฏิบัติของมหาอำนาจได้ดี อย่าลืมเชียวพี่ใหญ่ของเรามักพูดอย่างทำอย่างเป็นอาจิณ

.......................... ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่ประเด็นทวิภาคีที่ มาดามคลินตัน หยิบยกขึ้นมาเจรจากับสมาชิกอาเซียนรวมทั้งไทย ล้วนเป็นผลประโยชน์กับฝ่ายสหรัฐฯมากกว่า ไม่ว่าปัญหาเกาหลีเหนือ ค้ามนุษย์ ก่อการร้าย และกรณีพม่า

............................ ขึ้นป้ายได้เลยว่า กษิต ภิรมย์ จะไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรูดม่าน เพราะต้องรอจนกว่าการประชุมผู้นำอาเซียน บวกสามบวกหกที่เลื่อนจากเดือนเมษายนผ่านไปก่อน .....เชื่อเถอะเหตุผลมีเปอะเรอะ!!!

.............................. มุกเก่ายังขลัง !!! ถูกโหวตว่า 6 เดือนผลงานไม่ชัด นายกฯอภิสิทธิ์ เริ่มออกอาการฉิวให้เห็นบ่อยๆ ล่าสุดสั่งคลังบี้แบงก์รัฐ 6 แห่งให้เร่ง อำนวยสินเชื่อ

.................. ดูข้อมูลที่ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯแจงวันก่อนแล้วใจแป้วแทนผู้ประกอบการ เพราะปีนี้แบงก์รัฐทั้ง 6 แห่งมีเป้าปล่อยกู้รวมกัน 6.25 แสนล้านบาท ครึ่งปีที่ผ่านมาอนุมัติไปแล้ว 4.23 แสนล้านบาท เท่ากับว่าครึ่งหลังที่เหลือ ปล่อยกู้อีก 1 แสนกว่าล้านบาท

.........................ตัวเลขสินเชื่อข้างต้น ถึงเอา มาเข้าสูตรการเพิ่มปริมาณเงินตามอัตราทวีวงเงินขยายก็ยังไม่มากพอจนมีนัยสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยัง ลูกผีลูกคน

....................................ฉะนั้นในเชิงหลักการต้องปรบมือดังๆ ให้ นายกฯอภิสิทธิ์ ที่โน้มคอตีเข่า ผู้บริหารแบงก์รัฐ ให้ช่วยกันเพิ่มวงเงินปล่อยกู้กระตุ้นเศรษฐกิจ แทนนั่งกอดเงิน หากินส่วนต่างจากตลาดเงิน เมินความเสี่ยงจากการปล่อยกู้

.......................... ในสถานการณ์เช่นนี้ หากแบงก์รัฐไม่ออกหน้ารับความเสี่ยงก่อน ก็อย่าหวังว่าแบงก์พาณิชย์จะขยับตัว เพราะอยู่เฉยๆ ปล่อยแต่สินเชื่อหมุนเวียน หากินกับค่าธรรมเนียมก็อ้วนพีกันถ้วนหน้าอยู่แล้ว ขนาดครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเศรษฐกิจชะลอตัว อุตสาหกรรมแบงก์ทั้งระบบยังมีกำไร 41,676 ล้านบาท

.......................... หากในมุมกลับการดำเนินนโยบายลักษณะนี้รัฐบาลต้องจับตาใกล้ชิด เพราะ แบงก์รัฐที่สนองนโยบายรัฐบาล มักถูกรุมทึ้งจาก กลุ่มธุรกิจการเมือง โดยเข้ามาสวมรอยแสวงผลประโยชน์ในการเข้าถึงสินเชื่อ จาก นโยบายรัฐบาล ปล่อยให้ธุรกิจไร้เส้น เหี่ยวเฉาเหมือนเดิม

.............................. กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง อัดโปรโมชันการคลัง ไม่หยุด ต้นสัปดาห์ก่อนเปิดแผนพัฒนาตลาดทุน ซึ่งรวมถึง กองทุนการออมเพื่อการชราภาพ (กอช.) ข่าวยังไม่ทันซา อัดแพ็กเกจซ้ำ ยกเว้นภาษีผู้มีรายได้จากดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อปี ซึ่งมีเจ้าของเงินฝาก 62 ล้านบัญชีได้อานิสงส์กันถ้วนหน้า

............................ ขยันออกผลิตภัณฑ์ เข้าถึงชาวบ้านโดยตรงแบบนี้มีหวังผลสำรวจค่าความนิยมครั้งต่อไป กระฉูดแน่ !!!

'''''''''''''''''''''''''''''''''''''' ข่าวดี !!! ! ศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขส่งออกครึ่งปี 2552 ว่ามีมูลค่ารวม 68,207 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 23.5 % แต่ตัวเลขดังกล่าวน่าจะทรุดอยู่ตัวแล้ว................. สวัสดี.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook