ทุ่ม2แสนล้านบาท จัดทำทะเบียนแหล่งน้ำทั่วประเทศ

ทุ่ม2แสนล้านบาท จัดทำทะเบียนแหล่งน้ำทั่วประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 27 กรกฎาคม นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำเตรียมการบริหารจัดการน้ำระยะยาวด้วยการจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำทั่วประเทศ เพื่อจัดระบบการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมทั้งแหล่งน้ำขนาดเล็ก กลาง และ ใหญ่ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการบริหารจัดการน้ำของไทย ประมาณการเบื้องต้นไทยน่าจะมีแหล่งน้ำทั้งหมดราว 86,860 แห่ง วงเงินงบประมาณดำเนินการประมาณ 2 แสนล้านบาท รูปแบบการดำเนินงาน นอกจากจะกรมทรัพยากรน้ำจะเป็นเจ้าภาพหลักแล้ว ยังสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสำรวจออกแบบแหล่งน้ำ เพื่อให้ทราบว่าข้อมูลที่แท้จริงของแหล่งน้ำแต่ละแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของพื้นที่ และสถานที่ตั้ง ตลอดจนระบบนิเวศ และประโยชน์ของแหล่งน้ำที่ต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรม แหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค แหล่งน้ำเพื่อการคมนาคม แหล่งน้ำเพื่ออุตสาหกรรม เป็นต้น

นายศิริพงศ์ กล่าวว่า การทำทะเบียนแหล่งน้ำดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่สอดคล้องกับโครงการแก้มลิงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งโครงการแก้มลิงเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำรองรับน้ำนองในฤดูฝนเพื่อนำน้ำออกมาใช้ในช่วงฤดูแล้ง โดยในระยะยาวการจัดทำทะเบียนน้ำจะมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการทำงานในเชิงป้องกัน อีกทั้งโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู แหล่งน้ำ เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของกรมฯในการเข้าไปดูแลพื้นที่นอกเขตชลปะทาน ซึ่งปราศจากคนดูแล เพราะที่ผ่านมามีแหล่งน้ำเสื่อมโทรมจำนวนมาก เช่น บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์มีผู้บุกรุกเข้าไปให้พื้นที่ดังกล่าวถึง 60,000 หมื่นไร่ จากพื้นที่ 120,000 ไร่ ในส่วนนี้กรมฯได้เข้าไปฟื้นฟูด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ที่เด่นชัด และชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่สาธารณะซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญอีกแหล่งหนึ่ง

ประโยชน์ของการจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำสามารถแบ่งออกได้ 5 ประเด็นหลักคือ 1.สามารถช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งได้ 2.แก้ไขปัญหาอุทกภัย 3.ช่วยรักษาระบบนิเวศน์ 4. เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และ5.ป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปบุกรุกพื้นที่แหล่งน้ำ การจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการทำงานเรื่องน้ำเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook