ปชช.เกือบร้อยละ 97 เชื่อหากปล่อยให้เด็กเล่นกมไม่จำกัดเวลา จะทำให้ปัญหาติดเกม และความรุนแรง ก้าวร้าวเ

ปชช.เกือบร้อยละ 97 เชื่อหากปล่อยให้เด็กเล่นกมไม่จำกัดเวลา จะทำให้ปัญหาติดเกม และความรุนแรง ก้าวร้าวเ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผลงานวิจัย ชี้ประชาชนเกือบร้อยละ 97 เชื่อว่าหากปล่อยให้เด็กเล่นกมไม่จำกัดเวลา จะทำให้ปัญหาติดเกม และความรุนแรง ก้าวร้าวเพิ่มขึ้น ขอให้รัฐควบคุมร้านเกมให้เล่นไม่เกินวันละ 3 ชั่วโมง นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า จากการสำรวจเรื่อง การไม่จำกัดเวลาเล่นเกมคอมพิวเตอร์ของเด็ก กับปัญหาเด็กติดเกม โดยศึกษาประชาชน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,775 ครัวเรือน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 71 สามารถเดินทางไปถึงร้านเกมคอมพิวเตอร์ได้ภายใน 30 นาทีจากที่พักอาศัย ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 96.9 เชื่อว่า การปล่อยให้เด็กเล่นเกมแบบไม่จำกัดเวลา จะทำให้เด็กติดเกมมากขึ้น และร้อยละ 96.6 บอกว่า การติดเกมทำให้การเรียนตกต่ำ เกือบร้อยละ 90 ยืนยันว่าทำให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง รวมถึง มีการมั่วสุม ที่อาจไปสู่การประพฤติผิด และร้อยละ 78 บอกว่า การเล่นเกมนำไปสู่การพนัน อีกร้อยละ 80 บอกว่า อาจลักเล็กขโมยน้อย และร้อยละ 71.6 คิดว่าจะไปข่มขู่รีดไถคนอื่น ที่สำคัญร้อยละ 84.3 เชื่อว่าเด็กที่ติดเกม จะสนใจช่วยเหลือสังคมและเห็นใจผู้อื่นน้อยลง กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 86 จึงระบุว่า รัฐบาลไม่ควรอนุญาต ให้ร้านเกมเปิดบริการให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมในร้านเกมได้นานกว่าวันละ 3 ชั่วโมง และร้อยละ 87 ไม่เห็นด้วยที่จะมีการยกเลิกมาตรการควบคุมเวลาเล่นเกมของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ให้เกินวันละ 3 ชั่วโมงด้วย โดยประชาชนร้อยละ 60.1 เชื่อว่ากลุ่มคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุด จากการยกเลิกคุมเวลาเล่นเกมของเด็กต่ำกว่า 18 ปี คือ เจ้าของร้านเกม นายนพดล กล่าวอีกว่า งานวิจัยนี้สะท้อนชัดว่า ร้านเกมคอมพิวเตอร์ กำลังแพร่กระจายไปทั่วประเทศ หากกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้องที่ได้จากร้านเกม ก็จะป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เกิดปัญหาสังคมที่รุนแรง เพราะการศึกษาที่ผ่านมาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยืนยันว่าการไม่คุมเวลาเล่นเกมของเด็ก จะส่งผลเสียต่อคุณภาพเด็กและเยาวชนแน่นอน ด้านนางศรีดา ตันทะอธิพานิช มูลนิธิอินเตอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมูลนิธิอินเตอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ยินดีอย่างยิ่งที่จะมอบแนวคิดระบบติดตามการควบคุมเวลาการเล่นเกมของเด็กในร้านอินเตอร์เน็ต ไม่ให้เกิน 3 ชั่วโมง ให้กับกระทรวงวัฒนธรรม เพราะเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับสังคม และเป็นการช่วยกันดูแลเด็กและเยาวชน ซึ่งยืนยันว่าระบบดังกล่าวปฏิบัติได้จริงและมีต้นทุนที่ต่ำ หากภาครัฐเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ก็ยินดีจะพัฒนาจากแนวคิดให้เกิดเป็นรูปธรรมจริง ขณะที่ นางอัญญอร พานิชพึ่งรัถ ประธานเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ถึงสภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีถูกกลุ่มสนับสนุนให้ยกเลิกมาตรการคุมเวลาการเล่นเกมในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี คุกคาม ข่มขู่ ด้วยการนำรูป ประวัติส่วนตัว ไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยนายเจษฐา อนุจารี ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความยินดีที่จะช่วยผู้เสียหายในกรณีนี้ เพราะเป็นเรื่องการต่อสู้เพื่อสังคม และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจะช่วยดูแลทางคดี ซึ่งเชื่อว่าจะสืบหาผู้ที่กระทำความผิดได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook