ทั้งขุ่นทั้งเคือง
สปาย-กลาส
เวลาเกิดศึกพิพาททางการเมือง แม้แต่วงการบันเทิงก็ใช่ว่าจะรอดพ้นบรรยากาศของความขัดแย้ง
กรณีล่าสุดเกิดขึ้นกับจีนและออสเตรเลีย ที่มึนตึงต่อกันถึงสองเรื่องใหญ่
ผู้สร้างภาพยนตร์จีน 4 เรื่อง เพิ่งถอนตัวจากการเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมลเบิร์น ออสเตรเลีย
ประท้วงที่เทศกาลหนังจะจัดฉายภาพ ยนตร์สารคดี Ten Conditions of Love เป็นเรื่องเกี่ยวกับนางเรบียา คาเดียร์ ผู้นำสภาอุยกูร์โลก
ศัตรูตัวฉกาจของจีน
จีนโทษว่า เหตุจลาจลนองเลือดที่เมืองอุรุมชี มณฑลซินเกียง เมื่อ 5 ก.ค. มีผู้เสียชีวิต 184 ราย เป็นเพราะนางคาเดียร์อยู่เบื้องหลัง
ฉะนั้น มิตรของศัตรู ย่อมเป็น ศัตรู
ต่อมาเว็บไซต์ของเทศกาลภาพยนตร์นี้ถูกป่วนโดยแฮกเกอร์นับร้อยครั้ง
ไม่ต้องค้นหาว่าฝีมือใคร ผู้จัดงานก็พอจะเดาได้
อีกกรณีตึงเครียดไม่แพ้กัน
เป็นเรื่องที่บริษัท ริโอ ทินโต บริษัทเหล็กเอกชนออสเตรเลีย ถูกทางการจีนจับกุมในข้อหาจารกรรมข้อมูลเชิงพาณิชย์ ผ่านการติดสินบน เมื่อ 5 ก.ค.
ฝ่ายออสเตรเลียเห็นว่า เบื้องหลังของเรื่องนี้ มาจากการที่จีนอึดอัดกับกฎการลงทุนที่เคร่งครัดของออสเตรเลีย
ส่วนนักวิเคราะห์ฝ่ายจีนเห็นว่า เบื้องลึก ยิ่งกว่า น่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างสมาคมเหล็กและเหล็กกล้า CISA ของทางการจีนกับบริษัทผู้ผลิตเหล็กของจีนเอง
สมาคมเหล็กฯ เห็นว่า เอกชนจีนไปจ่ายเงินให้บริษัทต่างชาติมากเกินไป จึงต้องการต่อรองโดยตรงกับฝ่ายออสเตรเลีย
แต่ระหว่างเจรจากับริโอ ทินโต จีนพบว่า คู่เจรจารู้ข้อมูลฝ่ายจีนทะลุปรุโปร่งจนผิดสังเกต เป็นที่มาของศึกพิพาทนี้
จีนเป็นผู้นำเข้าแร่ธาตุจากออสเตรเลียรายใหญ่ที่สุด และเป็นคู่ค้าของออสเตรเลียที่ใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่าการค้าปีที่แล้ว 53,000 ล้านดอลลาร์
การเปิดศึกย่อมหมายถึง การได้ฤกษ์ จัดระเบียบใหม่ ด้านผลประโยชน์!