แม่สติแตกฆ่าลูกแทะนิ้ว-กินสมอง

แม่สติแตกฆ่าลูกแทะนิ้ว-กินสมอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อ้างซาตานสั่งเชื่อจิตไม่ปกติ

จับเชือดคอ-กินสมองลูก ช็อกโลกแม่สติแตกก่อคดีสยองขวัญ มีดแทง-ปาดคอ ทารกน้อยลูกตัวเองดับอนาถสาวเทกซัสเพี้ยนหนักหม่ำสมอง-แทะนิ้วเท้าดเหมือนผีซอมบี้ไม่มีผิด หลังเสร็จแทงตัวเองเจ็บสาหัสหนีความผิด อ้างหน้าตาเฉย ได้ยินเสียงซาตานสั่งให้ฆ่าลูกตัวเอง ตร.ฟันธงสภาพจิตไม่ปกติชัวร์ ชี้เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าผู้เป็นแม่จะลงมือได้ลงคอ สืบประวัติพบเพิ่งแยกทางกับสามี หอบหิ้วลูกแยกทางกลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน แจ้งข้อหาหนัก ฆาตกรรมในคดีอุกฉกรรจ์

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า นายโจ ริออส โฆษกตำรวจเมืองชิคาโกออกมา ระบุว่า ตำรวจรับแจ้งเหตุร้ายกรณีผู้เป็นแม่ลงมือฆ่าทารกน้อยลูกตัวเองอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา เหตุเกิดในบ้านพักย่าน ซัน อันโตนิโอ แหล่งที่พักที่ทันสมัยของเมืองชิคาโก จึงยกกำลังไปตรวจอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในสภาพเลือดโซมกาย ร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา ปากพร่ำบ่นว่าเป็นผู้ลงมือสังหารทารกน้อยเพศชาย ซึ่งเป็นลูกด้วยมือของตัวเอง อีกทั้งพยายามฆ่าตัวตายตามไปด้วย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปลอบ ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ ทั้งนี้เมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถึงกับผงะพบร่างหนูน้อยนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง สภาพลำตัวถูกแทง ส่วนคอมีรอยปาดด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ ศีรษะถูกกัดแทะน่าสยดสยอง

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุชื่อนางออตตี้ ซานเชส อายุ 33 ปี ชาวรัฐเทกซัส ส่วนเด็กน้อยคือ ด.ช.สกอตต์ เวสเลย์ บุชโฮลต์ช ซานเชส ลูกชายวัย 3 สัปดาห์ครึ่ง ทั้งนี้มือสังหารอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงจากซาตานสั่งให้ฆ่าลูกชายของตัวเอง จึงลงมือใช้มีดแทง ลำตัว และบั่นคอขณะลูกนอนหลับอยู่บนเตียง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบมีดดาบเปื้อนเลือดของกลางที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ในบ้าน 2 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าหลังก่อเหตุเสร็จผู้ต้องหาได้ใช้มีดแทงที่หน้าอก และช่องท้องฆ่าตัวตายหนีความผิด

ตำรวจนายหนึ่ง กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ไม่น่าเชื่อว่าผู้เป็นแม่จะลงมือฆ่าลูกตัวเองซึ่งยังเป็นเด็กทารก และกินสมองลูก เหมือนในหนังผีซอมบี้ รวมถึงกัดแทะ นิ้วเท้า 3 นิ้ว ก่อนจะแทงตัวเอง 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่าผู้ก่อเหตุคงมีสภาพจิตที่ไม่ปกติ อีกทั้งสืบประวัติทราบว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งจะแยกทางกับสามี ซึ่งเป็นพ่อเด็กได้แค่ 1 สัปดาห์ โดยหอบหิ้วลูกกลับมาอยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุกับแม่และน้องสาว ซึ่งทุกคนต่างช่วยกันเลี้ยงทารกน้อยที่เพิ่งคลอดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาฆาตกรรมในคดีอุกฉกรรจ์กับผู้ต้องหาซึ่งนอนพักรักษาตัวที่ รพ. แล้ว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook