คค.ดึงอสส.ร่วมทีมสู้คดีค่าโง่โทลล์เวย์ชัวร์ล้มคำวินัจฉัย

ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ให้กระทรวงคมนาคมร้องต่อศาล เพื่อขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่ตัดสินให้กรมทางหลวงจ่ายค่าเสียหายจำนวน 29 ล้านยูโร (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ให้แก่บริษัท วอเตอร์บาวน์ จำกัด ผู้รับเหมาจากประเทศเยอรมนี หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานโครงการโทลล์เวย์ หลังรัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผิดสัญญานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงแนวทางในการต่อสู้คดี "ค่าโง่ดอนเมืองโทลล์เวย์ 1.5 พันล้านบาท ว่า หลังจากนี้กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานเจ้าของเรื่องคงะไปตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ โดยอาจขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งผู้เกี่ยวข้องคงพิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐมีโอกาสชนะคดี จึงเสนอเรื่องมายังครม. แล้วครม. ก็เห็นควรให้ร้องเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว โดยประเด็นที่คาดว่าจะหยิบยกขึ้นมาต่อสู้คดีคือกรณีที่บริษัทวอเตอร์บาวน์ไม่ใช่คู่สัญญาสัมปทานของรัฐโดยตรง แต่ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นของบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานของรัฐฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐ ซึ่งถือเป็นกรณีแรกของไทยที่รัฐถูกผู้ถือหุ้นฟ้อง ที่ผ่านมาไม่เคยมีกรณีเช่นนี้เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า อนุญาโตตุลาการที่ตัดสินคดีนี้เป็นอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ หากจะมีการต่อสู้คดีจะ้องร้องไปที่ศาลใด คุณพรทิพย์กล่าวว่า เข้าใจว่าศาลไทยก็มีเขตอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ ไม่ต้องไปศาลโลก

ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ปฏิเสธจะให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการต่อสู้คดีดังกล่าว โดยกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการประชุมลับ ถ้าพูดไปจะติดคุก ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้ และไม่ต้องเสียค่าโง่ดอนเมืองโทลล์เวย์ 1.5 พันล้านบาทให้เอกชน นายกอร์ปศักดิ์ไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าว โดยกล่าวแบบเดิมว่า "ผมพูดไม่ได้