เทศบาลนครฯ จ.อยุธยา รื้อร้านค้าโดยรอบวิหารพระมงคลบพิตรแล้ว หลังเกรงถูกถอดจากมรดกโลก

เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ส่งกำลังเทศกิจและ อปพร. กว่า 100 นาย รื้อร้านค้าหลังวิหารพระมงคลบพิตร หลังคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่มรดกโลก จ.พระนครศรีอยุธยา มีมติให้กลุ่มผู้ค้านอกเขตที่กำหนด ต้องรื้อออกภายในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ วันนี้ (30 ก.ค.52) เวลา 11.00 น. กำลังเทศกิจ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร. กว่า 100 นาย เข้ารื้อถอนร้านค้าที่อยู่โดยรอบลานจอดรถหลังวิหารพระมงคลบพิตร และร้านค้าที่อยู่โดยรอบตัวอาคาร กว่า 200 ร้าน เนื่องจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร ธนารักษ์พื้นที่พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความเห็นร่วมกันต้องให้กลุ่มผู้ค้ารื้อย้ายออกภายในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ หลังจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา มีการขึ้นป้ายปิดปะกาศมานานกว่า 6 เดือน เนื่องจากพื้นที่ที่มีการตั้งร้านค้าดังกล่าว ถูกติติงมาจากคณะกรรมการยูเนสโก้ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาและอาจมีการถอนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกจากเมืองมรดกโลกในการรื้อย้ายร้านค้าครั้งนี้ โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ทหารและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 200 นาย กระจายกำลังรักษาความปลอดภัยโดยรอบ เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกต่อต้านจากกลุ่มผู้ค้าที่จะต้องถูกรื้อถอน แต่ก็ไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าเดินทางเข้าไปร้องเรียนยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ชะลอการรื้อถอนครั้งนี้ พ.จ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เทศบาลนครฯ จะมีการปรับปรุงระบสาธารณูปโภคในเต็นท์ที่จัดไว้ให้ผู้ขายทั้งหมด และจะประเมินดูว่า หากมีการย้ายพ่อค้า แม่ค้า มาอยู่ในที่ที่จัดไว้ให้ จะมีผลอย่างไร อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ค้าหลังวิหารมงคลบพิตร ในนามกลุ่มรักษ์มรดกโลก ประมาณ 50 คน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้กำลังใจนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หลังมีคำสั่งให้รื้อย้ายร้านค้าดังกล่าว โดยขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเกรงว่าจะถูกติติงจากยูเนสโก้ และหากปล่อยไว้นาน ปัญหาการลุกล้ำพื้นที่ค้าขายโดยรอบวิหารพระมงคลบพิตร จะยิ่งแก้ลำบาก