มท.1สั่งทั่วประเทศตั้งโต๊ะรับถอนชื่อถวายฎีกา อ้างตัดสินใจเองปัดแลกคดีกล้ายางของเนวิน

มท.1สั่งทั่วประเทศตั้งโต๊ะรับถอนชื่อถวายฎีกา อ้างตัดสินใจเองปัดแลกคดีกล้ายางของเนวิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ชวรัตน์สั่งผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศตั้งโต๊ะรับถอนรายชื่อถวายฏีกา ปัดต่อต้านแลกเปลี่ยนคดีกล้ายางของเนวิน นายกฯสั่งขรก.ให้ข้อเท็จจริงเตือนปชช.อย่าหลงเชื่อ รบ.เตรียมออกช่อง11แจงตอน3ทุ่ม31ก.ค.ชนเสื้อแดงชุมนุม มท.1สั่งผู้ว่าฯ-นอภ.ตั้งโต๊ะรับถอนรายชื่อถวายฎีกา

ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 ก.ค. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการรวบรวมรายชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ได้รับทราบจากส.ส.และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่าขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ต่างๆจำนวนมาก ที่ไปร่วมลงชื่อถวายฎีกากับกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริง หลังจากที่พรรคภูมิใจไทย ได้รณรงค์ต่อต้านการล่ารายชื่อถวายฎีกา ว่าการลงชื่อดังกล่าวทำไม่ได้ตามกฎหมาย เพราะการถวายฎีกาจะต้องเป็นญาติกับผู้ต้องโทษ และผู้ต้องโทษจะต้องรับโทษก่อน ดังนั้นเมื่อประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว จึงต้องการที่จะถอนชื่อจากฎีกาที่จะถวาย ตนจึงได้มอบหมายปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ ให้ตั้งโต๊ะรับรายชื่อผู้ที่ต้องการถอนชื่อออก โดยให้ตั้งโต๊ะตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.นี้เป็นต้นไปที่ศาลากลางจังหวัด และทีว่าการอำเภอต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งคนที่จะมาถอนชื่อจะต้องมาแจ้งความจำนง ด้วยตัวเอง และจะมีการถ่ายสำเนาบัตรประชาชนเก็บไว้

นายชวรัตน์ กล่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้ที่ต้องการจะถอนชื่อออกนั้น จะไม่นำรายชื่อดังกล่าวยื่นตามไปกับรายชื่อถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาธิการ แต่เมื่อรวมได้จำนวนหนึ่ง จะนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เพื่อให้เห็นว่าทางกลุ่มเสื้อแดงระบุว่ามีคนถวายฎีกากี่คนก็ให้หักลบจากผู้ที่ถอนชื่อ อย่างเช่นแกนนำกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่ารวบรวมรายชื่อได้ 3 ล้านคน แต่มีคนมาถอนชื่อที่กระทรวงมหาดไทย 5 แสนคน ก็เท่ากับว่ามีการรวบรวมรายชื่อได้แค่ 2.5 ล้านคน ทั้งนี้การสั่งการของตนไม่ใช่การใช้อำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อตอบโต้ทางการเมือง เพียงแต่เป็นการบริการประชาชนที่ต้องการถอนชื่อ แต่ไม่รู้จะไปถอนที่ไหน

เมื่อถามว่า มีการระบุว่าพรรคภูมิใจไทยรับงานมาต่อต้านการถวายฎีกาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการตัดสินคดีกล้ายางที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้คุยกับนายเนวินเรื่องนี้เลย และการสั่งการทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของตน หลังจากที่ฟังเสียงสะท้อนจากส.ส.ในพรรค ส่วนเรื่องคดีกล้ายาง ตนไม่ทราบ แต่ไม่ว่าผลการตัดสินเป็นอย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็จะเดินหน้าต่อไป โดยมีตนเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนนายเนวิน เปรียบเสมือนอาจารย์ใหญ่

มาร์คสั่งข้าราชการร่วมต้าน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ที่กระทรวงสาธารณสุข ถึงการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการได้ย้ำกับหัวหน้าส่วนราชการว่า ในระบบราชการที่มีเครือข่ายอยู่ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน สิ่งที่ทำและเคลื่อนไหวในขณะนี้ไม่ใช่การขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษจะต้องทำโดยเจ้าตัวหรือครอบครัว ซึ่งกำลังรับโทษเดือดร้อนอยู่ แต่ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนนั้น เพราะเจ้าตัวไม่ได้กลับมารับโทษ แต่หากเป็นฎีกาเรื่องการเมือง ก็ต้องคิดให้ดีว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ดังนั้น ขอให้ทุกส่วนราชการให้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องกับประชาชนผ่านเครือข่ายต่างๆ รวมทั้งสื่อของภาคราชการด้วย

อยากจะบอกว่า ข้อความสิ่งที่สื่อสารไปยังประชาชนเชิญชวนให้มาลงชื่อขณะนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ มันไม่ใช่เรื่องจริง ไม่อยากให้ประชาชนไปหลงเชื่อ นายอภิสิทธิ์กล่าว

ออกช่อง11ชี้แจงเรื่องถวายฎีกา

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม รัฐบาลกังวลเรื่องการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงและการให้สัมภาษณ์พาดพิงสถาบันเบื้องสูง โดยห่วงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยเหตุการณ์ความรุนแรงเหมือนเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือ วันที่ 31 กรกฎาคม เวลา 21.00 น. จะมีรายการพิเศษเพื่อทำความเข้าใจประชาชนทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และได้ขอความร่วมมือผ่านทางสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ของรัฐในการเผยแพร่ข้อเท็จจริงและให้ความรู้ข้อกฎหมายแก่ประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าการถวายฎีกาสำเร็จจะเกิดอะไรขึ้น นายสาทิตย์กล่าวว่า เชื่อว่าจะต้องมีการเคลื่อนไหวรวมพลังของคนไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วง

เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามบอกประชาชนว่า กำลังถูกกีดกันไม่ให้ร้องทุกข์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราต้องทำความเข้าใจว่า เวลาที่มีความเดือดร้อน ร้องทุกข์ต้องทำโดยเจ้าตัวหรือครอบครัว แต่เห็นชัดเจนว่า เจ้าตัวหรือครอบครัวไม่ยอมทำ ดังนั้น ประชาชนต้องคิดได้ว่ามันมีอะไรอยู่ ใครพยายามใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook