ผู้ประกาศหญิง "ทีวีเปลือย" ร่ำไห้ โดนหลอก

ผู้ประกาศหญิง "ทีวีเปลือย" ร่ำไห้ โดนหลอก

ผู้ประกาศหญิง "ทีวีเปลือย" ร่ำไห้ โดนหลอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตร.โสมล่าเจ้าของบริษัทต้มตุ๋น

เมื่อ 2 ส.ค. โคเรียนไทมส์รายงานเหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจสาวๆ เกาหลีใต้ที่หวังอยากสร้างชื่อเป็นดาราจนถูกหลอก จากกรณีการจัดตั้งสถานีข่าว "เนกเก็ด นิวส์ โคเรีย" (Naked News Korea) ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก ด้วยการนำเสนอผู้ประกาศหญิงใส่ชุดปลุกใจเสือป่า ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. แต่ถึงวันที่ 24 ก.ค. ก็หยุดออกอากาศ แล้วมาประกาศปิดตัวทางเว็บไซต์ในวันที่ 30 ก.ค. ทำให้ผู้ประกาศหญิงอย่างน้อย 4 รายโร่ร้องเรียนกระทรวงแรงงาน เนื่องจากยังไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ

น.ส.ชอย ซุนยี, ฮัน มินคยุง, ลี ซียอน และจี แจคยุน ผู้ประกาศสาว 4 คนที่เหลือของสถานี เปิดแถลงข่าวเมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังยื่นเรื่องฟ้องร้องกับกระทรวงแรงงาน ฟ้องร้องว่า นายจอห์น โช เจ้าของสถานี ดำเนินธุรกิจด้วยเจตนาฉ้อโกงอยู่ก่อนแล้ว

"พวกเรามาเป็นผู้ประกาศให้เนกเก็ด นิวส์ โคเรีย ทั้งที่ถูกต่อว่าจากพ่อแม่ ญาติๆ เพื่อนๆ แต่เราก็ยินดีมาร่วมงาน ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เพราะเราคิดว่า สถานีนี้เป็นสาขาของเนกเก็ดนิวส์ในต่างประเทศ และเป็นสถานีสาขาแรกในเกาหลี มารู้เอาภายหลังว่า นายโชแค่ไปซื้อลิขสิทธิ์ชื่อมาเฉยๆ เจตนาจะโกงทุกคนในคราวเดียว รวมทั้งเราที่เป็นผู้หญิงถูกโกงทั้งศักดิ์ศรีและเงิน โดยเงินค่าสมาชิกทั้งหมดเข้ากระเป๋านายโช เพียงคนเดียว" ชอย ซุนยี ตัวแทนผู้ประกาศหญิงกล่าว ด้วยความเจ็บใจ

ด้านผู้ประกาศหญิงอีกคนกล่าวเสริมว่า "ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อการหลอกลวงครั้งนี้ ฉันทุ่มเททุกอย่างให้กับงานนี้ แล้วดูผลที่ได้รับสิ ฉันได้ยินว่า ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว หวังเพียงอย่างเดียวว่า เสียงวิจารณ์ด่าว่าไปถึงพ่อแม่ของพวกเราจะยุติลงได้แล้ว" หญิงสาวกล่าวก่อนระเบิดน้ำตาออกมา

เนกเก็ดนิวส์เปิดตัว 9 สาวผู้ประกาศข่าวเป็นที่ฮือฮา โฆษณาเน้นความเซ็กซี่และการแต่งกายหวือหวา โชว์หน้าอกกึ่งเปลือย ทั้งคุยโวว่า มีผู้สมัครเป็นลูกค้าสมาชิกถึง 260,000 ราย แต่จริงๆ เชื่อว่า มีแค่ 30,000 ราย ต่อมาผู้ประกาศ 5 คนลาออกไปก่อน เพราะเห็นท่าไม่ดีว่า ยังไม่ได้เงินค่าจ้าง

ด้านตำรวจเกาหลีใต้สอบสวนเตรียมดำเนินคดีกับนายโชแล้ว โดยพบว่า สำนักงานบริษัทในเมืองย็อกซัมดอง ทางใต้ของกรุงโซล ปิดทำการ เฟอร์นิเจอร์ในอาคารหายไปหมด คาดว่านายโชหนีไปต่างประเทศ ตำรวจจึงอาจต้องปรับเป็นคดีอาญาข้ามประเทศ เพื่อล่าตัวนายโชกลับมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook