ท้าทำประชามติถวายฎีกา

ท้าทำประชามติถวายฎีกา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ปชช.อยากให้ทำหรือไม่''เสื้อแดง''ฮือเกทับ มท.!

คนเสื้อแดงแต่งดำรับขวัญวันเกิดมาร์คพร้อมมอบ อึหมา-พวงหรีด-เผาโลงศพ ให้เป็นของ ขวัญ ขณะที่ นปช.เผย 17 ส.ค.นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมประกาศระดมเสียงคนเสื้อแดงเพิ่ม เกทับมหาดไทยตั้งโต๊ะล่าถอนรายชื่อ ท้ารัฐบาลทำประชามติว่าประชาชนอยากให้ถวายฎีกาหรือไม่ ณัฐวุฒิ สอนมวยอธิการบดีมหาวิทยาลัย เคยเข้าชื่อขอนายกฯ ม.7 มาแล้ว ทำไมประชา ชนจะเข้าชื่อถวายฎีกาไม่ได้ ด้านนายกฯ ปลื้มของขวัญลูกเมียฝันอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข ยันรัฐบาลต้องปกป้องสถาบันด้วยความรอบคอบ ภูมิใจไทย แนะ แม้ว สั่งเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวทุกอย่างก็จบ สาทิตย์ สั่งช่อง 11 ชี้แจงประชาชนเรื่องถวายฎีกา ขณะที่ เพื่อไทย แฉโครงการชุมชนพอเพียงโกงชัดกว่า ส.ป.ก.4-01 ส่วนตำรวจคุมเข้มประชุมสมัชชา อาเซียนที่พัทยา มั่นใจไม่ซ้ำรอยเดิม

นายกฯทำบุญวันเกิดครบ 45 ป

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่บ้านเลขที่ 32/3 ซอยสวัสดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยครอบครัวได้ทำบุญตักบาตรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 45 ปี โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป จากวัดดาวดึงษ์มารับบาตรพร้อมให้ศีลให้พร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ แต่นายกฯได้ให้แม่บ้านนำพระปางชนะมาร และพระพลังแผ่นดินมามอบให้กับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นพิธีปรากฏว่ารถตู้โตโยต้า ทะเบียน 3 ฝ 1514 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่รับส่งพระสงฆ์เครื่องยนต์เกิดสะดุด คนในบ้านต้องช่วย กันเข็นออกมาจากบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นนายกฯได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวสั้น ๆ ถึงวันคล้ายวันเกิดว่า แก่ไปอีกปีและภริยาให้เครื่องเสียงลำโพงต่อไอพอดเป็นของขวัญ ส่วนลูกให้ตุ๊กตาหมีแพนด้า จากนั้นนายกฯ ได้เข้าร่วมถ่ายภาพกับนักศึกษาไทย-ลาว ในกิจกรรมโครงการ 112 ปี การรถไฟสานสัมพันธ์ไทย-ลาว พร้อมรับมอบขนมเค้กและร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้นายกรัฐมนตรีด้วย

ไม่แคร์เสื้อแดงแต่งดำ

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขประชาชนมีความสุขเศรษฐกิจฟื้นตัว การเมืองเป็นประชาธิปไตย หากทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วง 1 ปีข้างหน้านี้จะมีความสุขมาก เมื่อถามว่า จะให้ของขวัญอะไรกับประชาชนบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงเป็นการทุ่มเททำงานหนักมากขึ้น รู้ว่ายังมีปัญหาอุปสรรคอีกมาก ตนจะไม่ลดละความพยายามจะเดินหน้าทำงานด้วยความขยัน ซื่อสัตย์และทุ่มเทอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงรณรงค์ให้สวมเสื้อดำทั้งแผ่นดินในวันคล้ายวันเกิดนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากทำก็ได้ไม่มีปัญหาตนเป็นคนใจกว้างอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า ในสายตาของนายกฯ คิดว่าจะทำอย่างไรให้ความขัดแย้งในสังคม ลดน้อยลง นายกฯ กล่าวว่า บางกลุ่มเขาก็มีเป้าหมายทางการเมือง ก็จะมีการเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ แต่หน้าที่ของเราคือดูแลไม่ให้การเคลื่อนไหวไปกระทบกระเทือนสถาบันหลักของชาติ และต้องไม่เป็นการสร้างวัฒนธรรมในเรื่องของความรุนแรง

เผยตัวเคลื่อนไหวเพื่ออะไร

ต่อข้อถามว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว กำลังพยายามจับเป็นประเด็นเพื่อชุมนุมใหญ่อีก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ทำได้ สำหรับนักการเมืองขอให้ระมัดระวังการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่อาจไปกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรเพราะขณะนี้แม้แต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังหยิบยกประเด็นนี้ออกมาเคลื่อนไหว นายกฯ กล่าวว่า ในที่สุดมันก็ฟ้องออกมาว่าเคลื่อนไหวเพื่ออะไร

เมื่อถามต่อว่า ทำไมรัฐบาลจึงไม่ตัดไฟแต่ต้นลม นายกฯกล่าวว่า คำว่าตัดไฟแต่ต้นลมหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงการไปท้าทายยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงไปมากกว่านี้ก็ไม่เป็น ผลดีกับใคร ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องอยู่ในกรอบ ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการถวายฎีกาจะกลายเป็นเงื่อนไขทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่าการร่วมลงชื่อไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย และโบราณราชประเพณี

รัฐบาลไม่ขวางแค่ให้ข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า จะกลายเป็นชนวนปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีกรอบหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลต้องให้ข้อเท็จจริงว่ามีความพยายามบอกว่ารัฐบาลไปขัดขวาง ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลเพียงแต่ให้ข้อเท็จจริง ใครทำอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องตรวจสอบ เพราะถ้ามีการยื่นถวายฎีกาจริงก็ต้องมีการตรวจสอบว่ารายชื่อที่เสนอมานั้นถูกต้องหรือไม่ และผู้ที่ลงชื่อเข้าใจตามที่มีการยื่นหนังสือหรือไม่ แกนนำก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด

เมื่อถามว่า คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมาเพียงพอต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังต้องมีการติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป และต้องดำเนินการตามแนวทางที่เหมาะสมด้วยความระมัดระวัง เพราะมีคนที่จ้องว่าหากรัฐบาลดำเนินการไม่ดี ก็จะหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขที่จะย้อนกลับมาให้เป็นปัญหาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบเรื่องที่กระทรวงมหาด ไทยตั้งโต๊ะให้มาถอนรายชื่อ แต่ถ้าประชาชนที่ทราบข้อเท็จจริงแล้วไม่ประสงค์จะให้ชื่อของตัวเองอยู่ในการถวายฎีกาก็มาแจ้งความจำนงได้

เทือก มีแต่ใจไร้ของขวัญ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงวันครบรอบวันเกิด 45 ปีของนายอภิสิทธิ์ว่า ตนไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรที่จะมอบให้ เพราะพวกตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องงานวันเกิดแค่มีความปรารถนาดีต่อกันก็ดีแล้ว

เติ้ง-ลุงจิ้น ร่วมอวยพร

วันเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมายังรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมประชุมวุฒิสภา และเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีเข้าร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ที่ห้องทำงานบริเวณชั้น 2 ประกอบด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง นอกจากนี้นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ยังได้ส่งนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายนิกร จำนง อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย นำแจกันดอกไม้และกล่องขนมไทยมาร่วมอวยพร

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม กล่าวถึงการลงชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่มาลงชื่อไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง คิดเพียงว่าเมื่อลงชื่อไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาได้ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าภายในเวลาเดือนกว่า ๆ จะมีคนมาลงชื่อถึง 4-5 ล้านคน

ส.ว.ลากตั้งอวดรู้แผนขั้นสุดท้าย

ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าได้รายชื่อถวายฎีกาทั้งหมด 5 ล้านรายชื่อว่า ทราบจากหน่วยข่าวกรองว่าตัวเลขจริงไม่ถึงล้าน การประกาศให้สังคมรับทราบถึงตัวเลข 5 ล้าน เพราะต้องการประชาสัมพันธ์เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อช่วงชิงพื้นที่ข่าวเหมือนเป็นแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งมีการวางแผนสร้างกระแสปั่น เรื่อย ๆ ทำให้การเมืองไม่นิ่งรัฐบาลปกครองประเทศไม่ได้

นายสมชายกล่าวอีกว่า เมื่อถึงแผนสุดท้ายได้รายชื่อครบที่จะยื่นถวายฎีกา พ.ต.ท. ทักษิณก็จะเป็นฮีโร่ โดยจะออกมาพูดวเองดูเป็นคนดีว่า จะเก็บรายชื่อ 5 ล้านรายชื่อไว้กับตัวเอง ขอเป็นผู้เสียสละเนื่องจากเห็นแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

มอบ พวงหรีด-อึหมาให้นายกฯ

วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มสภา ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 100 คน ได้สวมเสื้อสีดำ ผูกผ้าพันคอสีแดงมีข้อความความจริงวันนี้ เคลื่อนขบวนมาจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นแถลงการณ์ต่อนายอภิสิทธิ์ถึงการเข้าชื่อของประชาชนเพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัย โทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ และขอประณามกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่ต่อต้านกลุ่มเสื้อแดงในการนำรายชื่อยื่นทูลเกล้าฯถวายฎีกา และขอให้พรรคภูมิใจไทย ทหาร องคมนตรี ฝ่ายรัฐบาล กลุ่มพันธมิตรฯ และราชนิ กุลบางพวก หยุดดึงสถาบันเบื้องสูงลงมาทำลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชุมนุมของกลุ่มสภาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ได้มีการนำหุ่นฟางจำลองรูปของนายกฯ มาเผาด้วย พร้อมทั้งนำขี้หมาใส่ถุงจำนวน 7 ก้อนและพวงหรีดมามอบให้กับนายอภิสิทธิ์เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 3 ส.ค.ด้วย จากนั้นจึงได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขับไล่อธิการบดีต่อไป

17 ส.ค.นำรายชื่อทูลเกล้าฯ

อีกด้านหนึ่งนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำ นปช. พร้อมใจกันใส่ เสื้อดำไว้ทุกข์ให้กับนายอภิสิทธิ์เนื่องในวันคล้ายวันเกิด และร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าการยื่นทูลเกล้าฯถวายใบฎีกากว่า 5 ล้านรายชื่อ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า จำนวนรายชื่อมียอด 5 ล้านกว่าคน ต้องใช้ เวลาตรวจสอบเพื่อป้องกันความผิดพลาด คาด ว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 15-16 ส.ค. จากนั้น จะนำรายชื่อทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาใน วันที่ 17 ส.ค. โดยจะจัดขบวนชุดใหญ่ทำพาน ขนาดยักษ์บรรจุใบฎีกา เพื่อออกเดินทางไปสำนักพระราชวัง

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นปช. พร้อมจะตอบโต้กับบุคคลหรือกลุ่มที่ออกมาคัดค้านการยื่นถวายฎีกาทุกประเด็น จนกว่าขั้นตอนถวายฎีกาจะเสร็จสิ้นในวันที่ 17 ส.ค. เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าการที่กระทรวงมหาดไทยรณรงค์ให้ประชาชนถอนรายชื่อถวายฎีกา และสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อคัดค้านการถวายฎีกา เป็นการใช้กลไกของรัฐทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการกระทำที่ไม่บริสุทธิ์ไม่แน่ใจว่าต้องการล้มฎีกาหรือคดีกล้ายางกันแน่

นปช.ท้าทำประชามติอย่าลอบกัด

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นปช.จะรวบรวมรายชื่อคนที่เห็นด้วยและสนับสนุนการยื่นถวายฎีกาเพิ่มเติม เพราะต้องการให้เห็นว่านอกจากคนที่ลงชื่อถวายฎีกา 5 ล้านคนแล้ว ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่สนับสนุนและเห็นด้วยกับการยื่นถวายฎีกา ซึ่งรายชื่อชุดใหม่ที่ได้จะไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย แต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าแม้คนที่ไม่ได้ลงชื่อถวายฎีกาครั้งนี้ ก็ยังมีจำนวนมากที่เห็นด้วยกับเรา และขอท้ารัฐบาลหากใจถึงควรประกาศทำประชามติให้ประชาชนออกมาแสดงความเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการ ถวายฎีกาดีกว่าใช้วิธีลอบกัด นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า กลุ่มคนที่ออกโรงคัดค้านการถวายฎีกาล้วนกลุ่มเดียวกับที่ดำเนินการโค่นล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยที่ออกมารวมตัวคัดค้าน จึงอยากให้บรรดาอาจารย์กลับไปสำรวจตัวเองเมื่อตอนที่ออกมาเข้าชื่อถวายฎีกาขอนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ยังทำมาแล้ว แล้วเหตุใดประชาชนเข้าชื่อขอถวายฎีกาจึงทำไม่ได้

เตรียมเล่นงาน ลุงจิ้น รายต่อไป

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะแถลงผลงานรัฐบาล 6 เดือน ในวันที่ 6 ส.ค. ว่า ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ถือโอกาสนี้แถลงผลงาน 60 ปี ของพรรคไปด้วยเลย เพราะยังมีประชาชนจำนวนมากคิดไม่ออกว่า 60 ปี ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์มีผลงานอะไรให้กับบ้านเมืองบ้าง และจะให้ดีก็ควรให้นายอภิสิทธิ์ นั่งแถลงคู่กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

นายจตุพรกล่าวว่า เร็ว ๆ นี้จะไปแจ้งป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย ตามมาตรา 267 กรณีที่คนในครอบครัวคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล บุตรชาย ถือหุ้นบริษัทชิโนทัย จำกัด (มหาชน) ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.และรัฐธรรมนูญหรือไม่

ใช้ช่อง 11 ทำความเข้าใจ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การถวายฎีการัฐบาลเกรงว่าจะมีการหลอกให้ประชาชนเข้าใจผิด ถ้ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยโอกาส ปะทะกันก็จะสูง ตนจึงได้มอบให้กรมประชาสัมพันธ์ชี้แจงผ่านช่อง 11 และมีการทำเป็นดีวีดีและซีดีเผยแพร่ทั่วประเทศ และขอให้ประสานกับทางเคเบิลท้องถิ่นและวิทยุชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น

สิ่งที่เรากังวลคือกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยเขาก็เคลื่อนไหวกันอย่างมาก กลัวเป็นเงื่อนไขขัดแย้งเหมือน 12-13 เม.ย. ที่ผ่านมา จึงต้องให้สติกับสังคม ส่วนในเรื่องการนำกฎหมายมาใช้นั้นต้องดูให้รอบคอบ นายสาทิตย์กล่าว เมื่อถามว่า แกนนำเสื้อแดงเสนอทำประชามติการถวายฎีกา นายสาทิตย์กล่าวว่า ยิ่งเสื้อแดงเคลื่อนไหวจะยิ่งสับสน แต่รัฐบาลจะสับสนตามไม่ได้ เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญการทำประชามติเขาให้ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ถามว่าจะใช้เงินพันล้านบาทไปทำเรื่องอย่างนี้คุ้มหรือไม่

แนะ แม้วสั่งยุติการเคลื่อนไหว

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช. เอาผิด รมว.มหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีตั้งโต๊ะถอน รายชื่อถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า สิ่งที่กระทรวงมหาดไทยดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย เพราะต้องการช่วยประชาชนที่ถูกล่อลวงไป และอยากถามกลุ่มเสื้อแดงว่าการจะนำรายชื่อที่ผสมกันระหว่างผู้ที่เต็มใจกับผู้ที่ถูกหลอกลวง นำขึ้นถวายต่อพระเจ้าอยู่หัวนั้นบังควรหรือไม่

และอยากจะถามนายจตุพรว่ากล้าสาบานหรือไม่ว่า รายชื่อทั้งหมดเป็นการลงชื่อด้วยความเต็มใจ ไม่ถูกล่อลวง หรือไม่มีการปลอมรายชื่อกันเพราะรายชื่อก็อ้างกันมาเองทั้งนั้น ไม่ได้ทำกันต่อหน้าคุณจตุพร นายศุภชัย กล่าวและว่า ประชากรของประเทศมี 65 ล้านคน ลงชื่อไปแค่ 5 ล้านคนถือได้ว่าอีก 60 ล้านคนเขาไม่ได้เห็นด้วย จึงควรทบทวนและยุติการกระทำดังกล่าวเสีย หนทางง่ายที่สุดคือ พ.ต.ท. ทักษิณออกมาบอกว่าให้หยุดทำทุกอย่างก็จบ

ซัด ศุภชัย เปลี่ยนไปมาก

นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด และจำนวนของผู้เข้าร่วมถวายฎีกาเป็นเพียงราคาคุยว่า นายศุภชัยเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนที่ทำงานร่วมกันนายศุภชัยก็ชื่นชมยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนตาม การที่มีประชาชนจำนวนมากร่วมลงชื่อถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ไม่ได้ถูกหลอกลวงรวมถึงประชาชนอีก 60 ล้านคนที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกคิดตื้น ๆ ง่าย ๆ

นายนพดลยังกล่าวถึงความคืบหน้าการ ตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 100 ช่อง ของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะสามารถทดลองออกอากาศได้ในวันที่ 1 พ.ย.เป็นวันแรก สำหรับช่วงทดลองออกอากาศนั้นจะเปิด 4 ช่อง คือ 1.ช่องเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.ช่องขายสินค้าโอทอป 3.ช่องการศึกษา และ 4.ช่องเรียลิตี้คนจน มีระยะเวลาทดลองออกอากาศ 3 เดือน สำหรับการรับชมนั้นฝ่ายเทคนิคกำลังอยู่ระหว่างการหาช่องทางให้ประชาชนสามารถรับชมทีวี 100 ช่องผ่านจานดาวเทียมของพีเพิล ชาแนลให้ได้ เพื่อช่วยประชาชนประหยัดค่าใช้จ่าย

ตจว.ตั้งโต๊ะแบ่งข้าง ปชช.

ส่วนความเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่ละจังหวัดเริ่มมีการตั้งโต๊ะให้ประชาชนที่ได้ลงชื่อถวายฎีกาไปแล้วมาลงชื่อถอน แต่จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีประชาชนมาแสดงความจำนงถอนชื่อ ผิดกับการตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงชื่อคัดค้านต่อการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณที่มีประชาชนมาลงชื่อร่วมคัดค้านอย่างหนาตา อาทิ จ.นครพนม สุรินทร์ สกลนคร กำแพงเพชร บุรีรัมย์ พัทลุง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะที่หลายจังหวัดกลุ่มคนเสื้อแดงได้แต่งดำและนำพวงหรีดมาวาง พร้อมเผาโลงศพจำลองของนายอภิสิทธิ์เนื่องในวันคล้ายวันเกิด อาทิ จ.มหาสารคาม ขอนแก่น ยโสธร อุดรธานี เชียงใหม่ ชลบุรี ฯลฯ โดยไม่มีใครมาลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาแม้แต่คนเดียว

ทุจริตชัดชุมชนพอเพียง

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงของรัฐบาลนั้น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานติดตามการใช้งบฯ โครง การชุมชนพอเพียง กล่าวว่า ในภาคเหนือเกือบทุกโครงการเข้าข่ายการทุจริตทั้งหมด เจ้าหน้าที่ของรัฐอ้างกับชาวบ้านว่าโครงการดังกล่าวเป็นการให้เปล่า หากชุมชนใดไม่รับไว้ก็จะหมดสิทธิ ชุมชนส่วนใหญ่จึงขอรับโครงการที่ถูกยัดเยียดมา

เรื่องชุมชนพอเพียงมีหลักฐานชัดเจนยิ่งกว่า ส.ป.ก.4-01 อีก และกระทบกับชาวบ้านโดยตรง หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขหรือตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนก็ตายอย่างเดียว เรื่องนี้สามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้กำกับนโยบายในระดับสูงได้อย่างแน่นอน นายวรวัจน์กล่าว

สภารับทราบตั้ง กก.สิทธิฯ

อีกด้านหนึ่งที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกหลังสมัยสามัญนิติบัญญัติ โดยนายอภิสิทธิ์ และ ครม. บางส่วนได้เข้าร่วมประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ที่ประชุมได้รับทราบพระราช กฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญนิติ บัญญัติ และรับทราบพระบรมราชโองการโปรด เกล้าฯ แต่งตั้งประธานและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกอบด้วย นางอมรา พงศาพิชญ์ เป็นประธานกรรมการ นายแท้จริง ศิริพานิช กรรมการ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ นายปริญญา ศิริสารการ นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด และนางวิสา เบ็ญจะมโน เป็นกรรมการ และรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายวิสุทธิ โพธิแท่น เป็น กกต.

จากนั้นนายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม เลขานุการวิปวุฒิ ขอเลื่อนระเบียบวาระการประชุม โดยหยิบยกเรื่องด่วนร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเสร็จแล้ว ให้พิจารณา ในลำดับท้ายสุด โดยที่ประชุมไม่ขัดข้อง

เลื่อนหารือเงินกู้ 4 แสนล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ได้เสนอหลักการเหตุผลในความจำเป็นที่รัฐบาลต้องมีการกู้เงิน หลังที่นายกรณ์ได้เสนอหลักการ นายนิคม ไวยรัชพาณิช รองประธานวุฒิสภา ได้ให้เลื่อนไปอภิปรายในวันที่ 10 ส.ค. แทน โดยระบุว่า เนื่องจากรัฐสภาของไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียนระหว่างวันที่ 2-8 ส.ค. ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ว. บางส่วน โดยบอกว่านายกฯ และ รมว.คลังก็อยู่ในห้องประชุมน่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อรับฟังข้อสังเกตเบื้องต้น จึงอยากถามว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีความสับสนในการประชุมวุฒิสภาเกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านว่า ตนให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 10 ส.ค. เนื่องจากมีสมาชิกต้องไปประชุมรัฐสภาอาเซียน ส่วนที่นายอภิสิทธิ์และนายกรณ์ต้องมาชี้แจงก่อน เพราะเป็นวาระที่ค้างอยู่ในที่ประชุมใหญ่ ซึ่งเห็นว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว จึงขอให้รัฐบาลชี้แจงไว้ก่อน แล้วค่อยมาประชุมอีกครั้งวันที่ 10 ส.ค.

ตร.พร้อมรับมือสมัชชาอาเซียน

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุมสมัชชาอาเซียน ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมกำลังไว้ 720 นาย และกำลังทหารเสริมอีก 120 นาย การกระทำใด ๆ ที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตำรวจต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานรัฐสภา กล่าวว่า การประชุมไม่น่าจะมีปัญหา เพราะได้ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งแกนนำผู้ชุมนุมบางส่วนไว้แล้ว คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ในตัวเมืองพัทยา ไม่เข้ามาในบริเวณสถานที่ประชุม.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook