นักธุรกิจให้ผ่านรัฐบาลแก้ศก.ครึ่งปี ยี้ขึ้นภาษีน้ำมัน-อัดการเมืองป่วน
ส่วนความพึงพอใจในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนใหญ่ พอใจมาตรการด้านสังคมมากที่สุด อันดับหนึ่งคือ มาตรการเรียนฟรี 15 ปี ได้คะแนน 8.0 รองลงมาคือเบี้ยยังชีพคนชรา คะแนน 7.9 ส่วนมาตร การที่ภาคธุรกิจพึงพอใจน้อยที่สุด คือ มาตรการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ได้คะแนน 2.8 ซึ่งถือว่ารัฐบาลสอบตก
การขึ้นภาษีน้ำมัน เพื่อเสริมรายได้ให้รัฐขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น การขึ้นราคาน้ำมันในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนิน ธุรกิจและการครองชีพของประชาชน หากมีการขึ้นราคาน้ำมัน 2 บาท/ ลิตร ในช่วง 5 เดือนที่เหลือจะทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบเพิ่มขึ้น 0.3% ดังนั้น รัฐควรให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาชดเชยราคาน้ำมันให้ก่อน เพื่อลดภาระผู้ประกอบการและประชาชน นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับปัจจัยที่เป็นปัญหาของภาคธุรกิจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วน ใหญ่เห็นว่าการชะลอตัวเศรษฐกิจเป็นปัญหา รองลงมา คือความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่ามีความรุนแรงของปัญหามากกว่า ปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่วนปัญหาที่มองว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้มากที่สุด คือ ความไม่แน่นอนทางการเมือง ปัญหาสินเชื่อ และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ถือว่าล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา
นายธนวรรธน์ กล่าวถึงความเห็นของภาคธุรกิจต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณ 400,000 ล้านบาท เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ 44.2% มองว่า จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ปานกลาง รองลงมา 25.5% กระตุ้นได้น้อย ดังนั้น การแถลงผลงานรัฐบาลในวันที่ 6 ส.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี ต้องชี้แจงรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ ทั้งนี้ ภาคธุรกิจ ส่วนใหญ่ 60% คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปี52 หรือการฟื้นตัวอาจจะชะลอไปจนถึงช่วงต้นปี53
นายธนวรรธน์ กล่าวถึงผลสำเร็จในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า การแก้ปัญหาการว่างงานเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ล่าสุดการว่างงาน อยู่ที่ 600,000 คน ส่วนมาตรการที่ไม่สำเร็จ คือ การปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ที่ขณะนี้มีการปล่อยสินเชื่อเพียง 1,000 ล้านบาท
