อ้างเป็นสายตร.มอมยา-ลวงสาวข่มขืนยับ
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 5 ส.ค. ที่ บก.ปดส. พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.ชัยพล เอกกุล รอง ผกก.พ.ต.ต.อุกฤต กัลยาณมิตร สว.กก.1 บก.ป.พร้อมกำลังเข้าจับกุมนายวสันต์ หรือเพชร หรือแหว่ง จิตรชนะ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1587/2552 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ทำร้ายร่างกาย ลักทรัพย์และอนาจาร ที่ห้องเช่าเลขที่ 206/10 ซ.อินทรพิทักษ์ 4 ถนนอินทรพิทักษ์ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดี ที่ได้นำตัวน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้เสียหายเข้าแจ้งความความ เนื่องจากถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกไปข่มขืนกระทำชำเรา จากการสอบสวนทราบว่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เอ ขณะนั้นรู้จักกับนายเพชร มาได้ประมาณสองเดือน วันเกิดเหตุนายเพชรได้มาหาผู้เสียหายที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งย่านวงเวียนใหญ่ ซึ่งน.ส.เอ พักอยู่กับเพื่อนหญิงรวมทั้งหมด 5 คน โดยนายเพชร ได้มาพูดชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้ไปขายบริการทางเพศ เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้เสียหายกำลังเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย ต่อมาในวันที่ 13 ก.ค.นายเพชรก็พากลุ่มผู้เสียปรากฎว่ากลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาล่อซื้อ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายถูกจับไปทั้งหมดสี่คน ยกเว้นตัวน.ส.เอ น.ส.เอ ให้การต่อไปว่ามาทราบเรื่องภายหลังว่านายเพชรนั้นเป็นสายให้ตำรวจ และบอกกับผู้เสียหายว่าจะให้ความช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกจับไป ซึ่งทั้งสี่คนได้ถูกส่งตัวไปอยู่ที่บ้านปราณีแล้ว แต่มีข้อแม้ว่าถ้าจะให้ช่วย น.ส.เอ ก็ต้องเป็นสายล่อซื้อยาเสพติดให้ โดยการจะเป็นสายล่อซื้อยานั้นก็จะต้องลองเสพยาก่อน หลังจากนั้นนายเพชร ก็เอายาไม่ทราบว่าเป็นยาอะไรมาให้น.ส.เอ กินไปทั้งหมด 10 เม็ด เมื่อกินเข้าไปแล้วเกิดอาการมึนงง นายเพชรจึงฉวยโอกาสพาตัวไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยโชคชัย 4 เมื่อไปถึงก็พยายามจะลงมือข่มขืน แต่น.ส.เอ ขัดขืนและโทรศัพท์เรียกเพื่อนให้มาช่วย นายเพชรจับได้จึงยึดโทรศัพท์ของผู้เสียหายไป หลังจากนั้นก็รีบพาขึ้นรถโดยสารไปลงที่จ.นครสวรรค์ เพื่อป้องกันการหลบหนี ในขณะนั้นน.ส.เอ ก็ยังอยู่ในอาการเมายา ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อไปถึงแล้วก็ถูกพาตัวไปข่มขืนรวมทั้งหมด 3 ครั้ง หลังจากนั้นนายเพชรก็พากลับมาที่ กทม. เมื่อกลับมาถึงนายเพชรก็ยังพาผู้เสียหายไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้านปราณีด้วย โดยไปแอบอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัต่เจ้าหน้าที่ของบ้านปราณี ไม่เชื่อ จึงไม่ยอมให้เข้าเยี่ยม นอกจากนี้ยังสงสัยในพฤติกรรมของนายเพชร จึงมีการสอบสวนและให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ กระทั่งมีการจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในคดีกระทำอนาจาร แต่ให้การภาคเสธในข้อหาลักทรัพย์ ส่วนคดีทำร้ายร่างกายและข่มขืนกระทำชำเรานั้นให้การปฏิเสธ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวนของ ปดส. ดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติยังทราบด้วยว่านายเพชรนั้นยังมีประวัติชอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเป็นสายให้ตำรวจ ที่ผ่านมาพบว่าเคยทำตัวเป็นตำรวจไปรีดไถเงินสาวประเภทสองที่โรงหนังแห่งหนึ่งย่านวงเวียนใหญ่ เคยแอบอ้างเป็นตำรวจไปเคลียร์คดีค่าเลี้ยงดูให้กับภรรยาของดาบตำรวจรายหนึ่ง และชอบทำตัวเป็นตำรวจเข้าพักฟรี
