แกนนำเสื้อแดงซัด วิษณุ เบื้องหลังล้มถวายฎีกา ยัน17ส.ค.ยื่นแน่

แกนนำเสื้อแดงซัด วิษณุ เบื้องหลังล้มถวายฎีกา ยัน17ส.ค.ยื่นแน่

แกนนำเสื้อแดงซัด วิษณุ เบื้องหลังล้มถวายฎีกา ยัน17ส.ค.ยื่นแน่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แกนนำเสื้อแดง ซัด วิษณุ อยู่เบื้องหลังล้มถวายฎีกา ลดเกรดมือกฎหมายประเทศเป็นเพียงหน่วยซุ่มโจมตี ปูดขวางไม่ไหว แผนการขั้นสุดท้ายยึดอำนาจ จตุพร ขู่เล่นงาน "มาร์ค" ไม่หยุด เจอแน่ข้อหาละเมิดพระราชอำนาจ ประกาศลั่นไอ้หน้าไหนก็ขัดขวางยื่นถวายฎีกา 17 ส.ค.ไม่ได้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ร่วมแถลงเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ถึงกรณีที่มีความเคลื่อนไหวคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ออกมาอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระดับประเทศคนหนึ่ง บอกว่าพระราชกฤษฎีกาวางระเบียบทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ซึ่งตราขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และยังมีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันว่าการขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษ ต้องไม่ใช่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลนั้น ตนยืนยันว่าการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงไม่มีเนื้อใดตอนใดที่ไปโต้แย้งคำพิพากษา เป็นแต่เพียงถวายฎีกาเพราะมีความทุกข์อันเกิดจากการยึดอำนาจและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นสองมาตรฐานไม่เป็นไปตามธรรมเนียมสากล และหวังใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำความรู้ความสามารถกลับมท่าช่วยแก้ปัญหาได้

"ผมขอถามว่าคนที่นายสุเทพกล่าวอ้าง คือ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยเป็นเนื้อหาที่นายวิษณุเตรียมนำไปบรรยายที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่าน แต่นายวิษณุไม่ได้ไปจึงเปลี่ยนรูปแบบนำเสนอผ่านสื่อแทนใช่หรือไม่ เหตุใดนายวิษณุไม่เปิดเผยตัวออกมา หรือนายวิษณุรับงานใครมา และไม่ว่าจะเป็นนายวิษณุจริงหรือไม่จริง ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ไม่เข้าใจว่านายวิษณุที่อยู่ในทำเนียบนักกฎหมายของประเทศ กลายเป็นเพียงหน่วยซุ่มโจมตีล้มถวายฎีกาแล้วหรืออย่างไร ทั้งนี้หลังการยื่นถวายฎีกาในวันที่ 17 สิงหาคมคนเสื้อแดงจะยุติทุกอย่าง ไม่มีการชุมนุมทวงถาม ก้าวล่วงพระบรมราชวินิจฉัยใดๆทั้งสิ้น แต่ที่รัฐบาลสั่งการขัดขวางกำลังจะสร้างความแตกแยก จนหาจุดจบไม่ได้และกลายเป็นผู้ก้าวล่วงพระราชอำนาจเสียเอง" นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้อธิบายว่าใช้อำนาจตามกฎหมายใดสั่งการให้ประชาชนและใช้กลไกรัฐดำเนินการเข้าชื่อคัดค้านการถวายฎีกา และรายชื่อที่รวบรวมได้จะนำไปทำอะไรต่อไป หรือรัฐบาลนี้มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างองค์พระประมุขและประชาชนที่มีมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยขอให้ประกาศให้ชัดว่าแนวทางต่อจากนี้ไปประชาชนจะถวายฎีกาองค์พระประมุข รัฐบาลต้องตรวจสอบเสียก่อนแล้วรัฐบาลจะวินิจฉัยเองใช้หรือไม่

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับโทรศัพท์จากประชาชนจำนวนหนึ่งว่ามีการระดมคนมากรุงเทพฯ ในวันที่ 11 สิงหาคมเพื่อถวายความจงรักภักดีสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถในวันที่ 12 สิงหาคมแต่เตรียมการจัดทำป้ายข้อความแสดงข้อความคัดค้านการถวายฎีกาให้กับประชาชน ตนถามว่ารัฐบาลเตรียมการเรื่องนี้จริงหรือไม่ อีกทั้งขณะนี้กลุ่มอำมาตย์ที่เคยล้มพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้กลไกทุกอย่าเพื่อล้มการถวายฎีกา รูปแบบเหมือนก่อนการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 โดยที่แต่คนละคนต่างมีเดิมพันส่วนตัว ซึ่งหากกระบวนการถวายฎีกาเดินหน้าไปได้ วิธีการสุดท้ายที่เตรียมไว้คือการปฏิวัติหรือไม่ แต่ขอบอกว่าถ้าทำก็สำเร็จแค่วันเดียว

ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า ตามที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศระดมคนออกมาชุมนุมในวันที่ 17 สิงหาคมเพื่อร่วมกับคนอีกหลายกลุ่มคัดค้านการถวายฎีกานั้น ตนเตือนนายอภิสิทธิ์ว่าถ้าไม่หยุดก้าวก่ายจะถูกข้อหาก้าวล่วงพระราชอำนาจเสียเอง รอไว้หลังวันที่ 17 สิงหาคมจะได้เจอคนเสื้อแดงเต็มที่อีกรอบ แต่ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ไม่มีอะไรและไม่ว่าไอ้หน้าไหนก็ขัดขวางการถวายฎีกาได้

นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับกรณีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยระบุว่าพร้อมที่จะรับฟังคำพิพากษาคดีกล้ายางด้วยตัวเองพร้อมยกเรื่องนามสกุลออกมากระทบกระเทียบว่าไม่มีพฤติกรรมหลบหนีเหมือนใครบางคนนั้น ตนเตือนนายเนวินว่าก่อนอื่นนายเนวินควรตามพี่ชายตัวเองที่นามสกุล "ชิดชอบ" ซึ่งมีคดีฆ่าคนตายและหลบหนีไปต่างประเทศจนถึงทุกวันนี้กลับมาเสียก่อน อย่างไรก็ตามทราบมาว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีนายเนวินเป็นอาจารย์ใหญ่ ไปสั่งการให้ครูอาจารย์สั่งนักเรียนเข้าชื่อคัดค้านถวายฎีกาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากวันที่ 17 สิงหาคมเกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลง คนเสื้อแดงจะชุมนุมต่อใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คนเสื้อแดงยึดมั่นในสันติวิธี จะไปมือเปล่า นอบน้อมถวายฎีกาเสร็จก็จะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและแยกย้ายกันกลับ ดังนั้นจึงไม่มีเงื่อนไขใดให้สถานการณ์เปลี่ยน ถ้ารัฐบาลไม่สร้างสถานการณ์แทรกซ้อน หากเป็นเช่นนั้นเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบ

 

ภาพ : เนชั่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook