ไทยไร้เทียมทานคว้าเจ้าทอง

ไทยไร้เทียมทานคว้าเจ้าทอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รับอัดฉีดจากกองทุน10.5ล.กอร์ปศักดิ์ปีะธานปิดวันนี้

การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน มาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 ส.ค. เป็นการชิงเหรียญในวันสุดท้าย มีชิงทั้งสิ้น 16 เหรียญทอง โดย วูซู-กังฟู ที่อาคารศิลปอาชา รร.กีฬา จ.สุพรรณบุรี ชิง 8 ทอง ไทยผ่านเข้าไปชิง 3 รุ่น ปรากฏว่า คว้ามาได้ 2 ทอง จาก รุ่น 52 กก. ชาย ขวัญยืน จันทรา หรือ วุฒิเดช ลูกพระบาท นักมวยไทยชื่อดัง ที่เอาชนะ กุลชาน (อินเดีย) 2-0 คะแนน และรุ่น 48 กก. หญิง ฉัตรดาว ชัยมาลา ที่เอาชนะ ซานาตอย เทวี ยัมนัม (อินเดีย) 2-1 คะแนน ส่วนรุ่น 56 กก. ชาย อดิศักดิ์ รองพิชัย หรือที่รู้จักกันดีในนาม เพชฌฆาตขนตางอน อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์ นั้น พลาดท่าแพ้ คิม จุน ยุล (เกาหลีใต้) 0-2 คะแนน ได้แค่เหรียญเงิน นอกจากนี้ยังได้อีก 1 เหรียญทองแดง จาก กาญจนา ปอสุวรรณ รุ่น 52 กก. หญิง ที่แพ้ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อวันก่อน

หลังจบการแข่งขัน วุฒิเดช ลูกพระบาท กล่าวว่า ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือต้องคว้าเหรียญทองเท่านั้น ขณะที่ ฉัตรดาว ชัยมาลา กล่าวว่า ดีใจมากคว้าเหรียญทองเหรียญแรกในชีวิตและยังเป็นของขวัญฉลองวันเกิดครบรอบ 19 ปี ซึ่งตนเกิดวันที่ 7 ส.ค. ได้อย่างดีอีกด้วย ส่วน อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เล่นไม่ดีเอง ถูกคู่แข่งเลยจับทางได้ก็เลยแพ้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ายังอ่อนกับการเล่นวูซู โดยเฉพาะลูกทุ่มที่จะต้องไปศึกษาและฝึกฝนให้ชำนาญกว่านี้ ส่วนอนาคตการเล่นทีมชาตินั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในสมาคม

คูราช ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ชิง 5 ทอง มีนักกีฬาไทยลงชิงชัย 3 คน โดยรุ่น 60 กก. ชาย ศราวุฒิ เพ็ชรสิงห์ เอาชนะ อับดุล วาเฮด วาเฮดี (อัฟกานิสถาน) คว้าเหรียญทองมาครอง นอกจากนี้ยังได้อีก 2 เหรียยเงิน จาก รุ่น 78 กก. หญิง ชุเมรินทร์ ผ่องสำอาง ที่แพ้ จายา เชาดารี (อินเดีย) และรุ่น +78 กก. หญิง เกศศินี ทองงอก ที่แพ้ คูบาเยา ชิริน (เติร์กเมนิสถาน) สรุป คูราชไทย คว้า 1 ทอง, 5 เงิน และ 1 ทองแดง หลังจบเกม ศราวุฒิ เพ็ชรสิงห์ กล่าวว่า รอบแรกเกร็งเล็กน้อย เพราะเจอกับเจ้าตำรับอย่างอุซเบกิสถาน แต่มั่นใจมาตลอดว่าจะชนะได้ เพราะฝึกซ้อมมากว่า 7 เดือน เหรียญทองนี้ขอมอบให้แม่และฉลองเนื่องในโอกาสวันแม่ให้กับชาวไทยทุกคนด้วย

คาราเต้โด ที่สนามอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ชิง 3 ทอง มีนักกีฬาไทยลงแข่งขันเพียงคนเดียว ในรุ่น 61 กก. หญิง ปิยะนันท์ ราชบันดิษฐ์ ปรากฏว่า สาวไทย ตกรอบแรก หลังแพ้ให้กับ มานาร์ ชาท (จอร์แดน) 2-3 คะแนน สรุป คาราเต้โดไทย คว้ามาได้ 2 เหรียญทองแดง

ส่วนปัญหาของคิกบ๊อกซิ่ง รอบชิงชนะเลิศ ในรุ่น 57 กก. ชาย ที่ พงษ์พันธ์ เปล่งสันเทียะ แพ้ เบาซาน คูไดเบอร์เกนอฟ จากคาซัคสถาน แบบค้านสายตา เมื่อ 7 ส.ค. ทำเอาแฟนกีฬาชาวไทยไม่พอใจ พร้อมกับขว้างปาสิ่งของไปบนเวที ขณะที่ นักชกไทยเอง ก็ประท้วงคำตัดสินไม่ลงจากเวทีอยู่นาน ทำให้นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายกสมาคมมวยไทยแห่งประเทศไทย ผู้ประสานงานการจัดคิกบ๊อกซิ่ง ต้องเข้าไปไกล่เกลี่ย แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ยังไม่สามารถประกาศผลได้

ล่าสุด นายสันติภาพ เปิดเผยว่า จากการประชุมกับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) และนายนาสเซอร์ นาสซิรี ประธานสหพันธ์คิกบ๊อกซิ่งเอเชีย พร้อมกับได้ดูเทปการชกในคู่นี้ นักชกไทยออกอาวุธได้หนักหน่วงก็จริง แต่ไม่ตรงตามกติกาคิกบ๊อกซิ่ง ที่ต้องเตะด้วยปลายเท้าเข้าที่เป้าหมาย ทำให้กรรมการไม่คิดเป็นคะแนน ซึ่งต้องยอมรับว่าเราอาจจะยังไม่รู้กติกาดีมากนัก ซึ่งก็ต้องเรียนรู้กันต่อไป ส่งผลให้ผลการตัดสินในคู่ดังกล่าวยังเป็นไปตามเดิม คือ เหรียญทอง เป็นของ คาซัคสถาน และเหรียญเงิน เป็นของนักชกไทย

สำหรับผลงานอันยอดเยี่ยมของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ที่คว้ามาได้ 21 ทอง, 17 เงิน และ 16 ทองแดง นั้น ถือว่าทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนแข่ง 10 ทอง และยังเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยได้ครองเจ้าเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาที่เป็นมหกรรมระดับทวีปเอเชีย ซึ่งเกิน ขณะที่ นักกีฬา, ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา จะได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมแล้วประมาณ 10,500,000 บาท

สรุปเหรียญรางวัล (ทอง-เงิน-ทองแดง) อันดับ 1 ไทย 21-17-16, อันดับ 2 คาซัคสถาน 15-7-12, อันดับ 3 เกาหลีใต้ 10-6-3, อันดับ 4 จีน 9-5-5, อันดับ 5 ญี่ปุ่น 9-2-3, อันดับ 6 เวียดนาม 7-11-21, อันดับ 7 อินโดนีเซีย 5-6-5, อันดับ 8 อุซเบกิสถาน 4-5-12, อันดับ 9 ไต้หวัน 4-5-11, อันดับ 10 อินเดีย 3-7-23, อันดับ 11 ปากีสถาน 3-2-4, อันดับ 12 ฟิลิปปินส์ 2-6-9, อันดับ 13 อิรัก 2-3-5, อันดับ 14 มาเลเซีย 2-3-3, อันดับ 15 อัฟกานิสถาน กับ จอร์แดน 2-2-8, อันดับ 17 ซีเรีย 2-1-3, อันดับ 18 ลาว 1-4-10, อันดับ 19 มองโกเลีย 1-3-3, อันดับ 20 บาห์เรน 1-1-3, อันดับ 21 เลบานอน, มาเก๊า, เติร์กเมนิสถาน 1-1-2, อันดับ 24 ฮ่องกง กับ สิงคโปร์ 0-2-3, อันดับ 26 คูเวต 0-1-4, อันดับ 27 บรูไน 0-1-2, อันดับ 28 พม่า 0-1-1, อันดับ 29 ศรีลังกา 0-0-2, อันดับ 30 ภูฏาน, เนปาล, กาตาร์ 0-0-1 ส่วนชาติที่ไม่ได้เหรียญมี 8 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ, กัมพูชา, คีร์จิกิสถาน, มัลดีฟส์, โอมาน, ปาเลสไตน์, ทาจิกิสถาน และ เยเมน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook