เนสท์เล่ไอศกรีมซุ่มแตกซับแบรนด์ ปั้นเธอทีนสร้างความต่าง-มุ่งเพิ่มลอยัลตี้วัยทวีน

เนสท์เล่ไอศกรีมซุ่มแตกซับแบรนด์ ปั้นเธอทีนสร้างความต่าง-มุ่งเพิ่มลอยัลตี้วัยทวีน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เนสท์เล่ไอศกรีมเดินหน้าใช้กลยุทธ์เซ็กเมนเตชั่นมาร์เก็ตติ้งแตกซับแบรนด์เนสท์เล่เธอทีนมัดใจเด็กทวีนปั้นคอนเซ็ปต์จุดยืนของแบรนด์แตกต่างจากตลาดหวังเชื่อมต่อลูกค้าจากเด็กสู่วัยรุ่นสร้างแบรนด์ลอยัลตี้มั่นใจเพิ่มยอด10%ในสิ้นปีพร้อมสร้างมาร์เก็ตแชร์5%ใน4ปีนางสาวมณฑาคงเครือพันธุ์ผู้จัดการฝ่ายการตลาดธุรกิจไอศกรีมบริษัทเนสท์เล่(ไทย)จำกัดเปิดเผยว่าจากนี้ไปกลยุทธ์ของเนสท์เล่ไอศกรีมจะให้ความสำคัญกับเรื่องเซ็กเมนเตชั่นมาร์เก็ตติ้งเพื่อกระตุ้นตลาดไอศกรีมและเพิ่มยอดขายซึ่งล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณ40ล้านบาทเปิดตัวซับแบรนด์เนสท์เล่เธอทีนสำหรับวัยทวีน(tween)วัยรุ่นตอนต้นระหว่าง13-17ปีซึ่งเป็นรายแรกในตลาดที่แตกไลน์สินค้าเฉพาะกลุ่มวัยทวีนโดยเฉพาะและเป็นการคิดค้นขึ้นสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะตลาดดังกล่าวมีศักยภาพสูงมากด้วยจำนวนวัยทวีนปัจจุบันที่มีถึง15ล้านคนหรือคิดเป็น20%ของประชากรและปัจจุบันถือเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ยังไม่มีค่ายไหนทำนางสาวมณฑากล่าวว่าทั้งนี้เนสท์เล่เธอทีนจะเชื่อมต่อระหว่างกลุ่มผู้บริโภควัยเด็กอายุ6-12ปีที่บริษัทมีแบรนด์หลักคือเอสกิโมขณะที่วัยรุ่นตั้งแต่อายุ18ปีขึ้นไปจะมีแบรนด์เอ็กซ์ตรีมซึ่งเดิมกลุ่มวัยทวีนจะรู้สึกว่าไม่มีแบรนด์ที่เป็นของตัวเองโดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและความคิดสร้างสรรค์มองว่าตนเองไม่ใช่เด็กและต้องการการดูแลที่แตกต่างจากกลุ่มเด็กและวัยรุ่นทั่วไปเดิมค่ายไอศกรีมจะเน้นแข่งกันเรื่องคุณสมบัติของไอศกรีมหรือเรียกชื่อตามรสชาติเช่นไอศกรีมช็อกโกแลตแต่โพซิชันนิ่งของเนสท์เล่เธอทีนสื่อในเรื่องทัศนคติของแบรนด์เพื่อสร้างความแตกต่างเนสท์เล่เธอทีนจะทำหน้าที่สร้างทัศนคติความมั่นใจด้านจิตใจให้กับผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้กล้าที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนอกจากนี้ยังได้สร้างแคแร็กเตอร์ลัคกี้เธอทีนเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารกับสโลแกนที่ว่ามันส์ซ่ากล้าป่วนช่วงแรกจะมี4รสชาติคือเธอทีนโชคดี,เธอทีนสมหวัง,เธอทีนโชค2ชั้นและเธอทีนโชคช่วยซึ่งจะเป็นการเรียกชื่อรสชาติที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงนางสาวมณฑากล่าวอีกว่าสำหรับงบฯการตลาดโดยรวมปีนี้จะใช้300ล้านบาทเพื่อรุกตลาดอย่างเต็มที่โดยปัจจุบันบริษัทมีสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มตั้งแต่เด็กวัยทวีนวัยรุ่นผู้ใหญ่และครอบครัวซึ่งปัจจุบันสัดส่วนของตลาดที่ใหญ่ที่สุดคือไอศกรีมเด็กประมาณ50%ซึ่งเอสกิโมถือเป็นผู้นำตลาดดังกล่าวขณะที่เอ็กซ์ตรีมยังคงเป็นรองคู่แข่ง(คอร์นเนตโต)มั่นใจว่าการแตกซับแบรนด์โดยเฉพาะนี้จะทำให้ยอดขายเนสท์เล่ไอศกรีมโดยรวมโตประมาณ10%และคาดว่าเซ็กเมนต์ใหม่นี้จะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ5%ในปี2556นางสาวมณฑากล่าวปัจจุบันเนสท์เล่ไอศกรีมมีส่วนแบ่งตลาดรวม35%จากมูลค่าตลาดไอศกรีมกว่า10,000ล้านบาทเป็นอันดับที่2และมีความแข็งแกร่งในช่องทางเทรดิชั่นนอลเทรดที่คิดเป็น80%ของตลาดรวมได้แก่ร้านค้าสามล้อและโรงเรียนต่างๆโดยปัจจุบันมีตู้แช่ที่เจาะเข้าไปในร้านค้าและโรงเรียนต่างๆ50,000ตู้ส่วนรถสามล้อไอศกรีมจะมีอยู่ที่6,000คันขณะที่โมเดิร์นเทรดซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่องทางคอนวีเนี่ยนสโตร์ยังเข้าถึงได้ไม่มากนักเนื่องจากเป็นการทำสัญญาในลักษณะของเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์โดย7เดือนที่ผ่านมาตลาดโต3%และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเติบโต3-5%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook