รวบแม่เล้าเมืองปทุมลวงดญ.ค้ากาม

รวบแม่เล้าเมืองปทุมลวงดญ.ค้ากาม ใช้มือถือ-เสื้อผ้ามาล่อ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 ส.ค. ที่ ศสส.บช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี แถลงข่าวจับกุมน.ส.สุวภรณ์ หรือฝน เอี่ยมทัศน์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในข้อหาค้ามนุษย์ ตาม พรบ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิง เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ได้ที่หน้าห้างโลตัส สาขาเมืองปทุมธานี พร้อมของกลางเงินสด 1,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ถูกจับกุมในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร ได้ภายในห้องพักเลขที่ 310 และ 311 ของโรงแรมโรยัล สวีท อ.เมืองปทุมธานี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ถุงยางอนามัย จำนวน 2 ถุง เมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากทางมูลนิธิปวีณา ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองของนักเรียนหญิงชั้นม.1 อายุ 13 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี ว่า บุตรสาวถูกน.ส.สุวภรณ์ หรือ พี่ฝน ล่อลวงไปค้าประเวณี ก่อนเข้าร้องเรียนทางผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายรายนี้พบว่าบุตรสาว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันภายในหมู่บ้านกว่าสิบคน มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป หลังจากได้ไปรู้จักคบหาผู้ต้องหารายนี้ โดยจะขาดเรียนบ่อย บางวันก็กลับบ้านมืดค่ำผิดเวลา บางครั้งก็หายไปจากบ้านไปหลายๆวัน ทำให้เกิดความสงสัยจึงได้ลองสอบถามจากกลุ่มเพื่อนๆของบุตรสาวจึงทราบความ จริงว่าบุตรสาวชอบไปมั่วสุมกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่บ้านพักของผู้ต้องหา ที่อยู่หมู่บ้านใกล้ๆกัน หลังจากนั้นจึงได้เรียกบุตรสาวมาสอบถามข้อเท็จจริง ก็เลยทำให้ทราบว่าถูกหลอกให้ไปค้าประเวณี

ส่วนพฤติกรรมมของน.ส.สุวภรณ์ ผู้ต้องหารายนี้ที่ใช้ในการล่อลวงเด็กก็คือมักจะนำเอาโทรศัพท์มือถือรุ่น ใหม่ๆ หรือไม่ก็เสื้อผ้าที่สวยงามมาล่อ จนทำให้เด็กเกิดหลงผิด ประกอบกับช่วงนั้นด้วยความอยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ก็เลยยอม ครั้งแรกทราบว่ามีค่าตัวแค่สี่พันบาท แต่ทางผู้ต้องหาได้แบ่งให้จำนวนหนึ่งเท่านั้น เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะเอาไปซื้อข้าวของที่อยากจะได้ มาระยะหลังเมื่ออกไปรับงานแล้วผู้ต้องหาจะแบ่งเงินให้เพียงเล็กน้อยครั้งละ ไม่เกิน 200-300 บาท โดยทุกครั้งผู้ต้องหามักอ้างว่ามีเรื่องเดือดร้อนต้องการใช้เงิน จึงเอาเอาเงินค่าตัวไปเกือบหมด หากเด็กไม่ยอมออกไปรับงานก็จะถูกข่มขู่ ทำให้ต้องออกไปทุกครั้งที่ผู้ต้องหาเรียก หลังจากทราบเรื่องแล้วทางผู้ปกครองของเด็กกลุ่มนี้จึงร่วมตัวกันเข้าแจ้ง ความกับตำรวจ จ.ปทุมธานี แต่เจ้าหน้าที่ทำงานล่าช้า จึงต้องเข้าไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณา กระทั่งก่อนเข้าจับกุมทราบว่าน.ส.สุวภรณ์ ได้โทรเรียกบุตรสาวของพวกตนออกไปรับงานอีก เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนและเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ในที่สุด

เบื้องต้นจากการสอบสวนน.ส.สุวภรณ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเด็กส่วนใหญ่ทั้งหมดจะเต็มใจที่จะทำงานแบบนี้ สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าเก่าที่เคยรู้จักกันตั้งแต่สมัยที่ตนยัง ทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์และพนักงานของร้านสุกี้ ชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำให้รู้จักกับคนเยอะ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะบอกต่อๆกันมา