เจ๊แดงควงสมชายทำบุญถวายราชินี

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 11 เม.ย. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี พรรคเพื่อไทย ได้จัดงานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 199 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นต้น โดยประชาชนที่มาร่วมงาน ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีฟ้าเพื่อมาร่วมงาน นอกจากนี้ทางพรรคยังตั้งโต๊ะเพื่อให้ลงนามถวายพระพร นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า จากการที่ตนได้สอบถามพ.ต.ท.ทักษิณทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีความเป็นอยู่ที่สบายดี แต่ความทุกข์ทางใจที่คิดถึงบ้านและต้องการเดินทางกลับบ้านยังมีอยู่ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อไหร่นั้น ตนไม่ทราบ สำหรับกรณีที่มีประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตนไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเรื่องการยื่นถวายฎีกานั้นไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งที่จะทำ แต่เป็นการกระทำของคนทั้งประเทศ ซึ่งหากจะคัดค้านนั้นก็สาารถทำได้ แต่ควรค้านเพราะมีความเห็นที่แตกต่างไม่ใช่ความแตกแยก ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าในวันที่ 17 ส.ค. ที่จะมีการยื่นถวายฎีกานั้น อาจจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดการปฏิวัติได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยเห็นขัดแย้งได้แต่ไม่มีเหตุอะไรที่ทหารจะเข้ามาทำการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะหากเกิดขึ้นแล้วสุดท้ายก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งอยู่ดี ระบอบประชาธิปไตยจะเดินหน้าไปได้ไม่ใช่ว่าต้องแก้ไขโดยการทำการปฏิวัติ ส่วนจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือไม่ คิดว่าคงจะไม่มีเหตุรุนแรงอะไร คนที่เดือดร้อนอยากจะช่วยพ.ต.ท.ทักษิณก็มาได้ คนที่คัดค้านและไม่เห็นด้วยจะมาก็มาได้ ตามระบอบประชาธิปไตยนั้นทุกคนมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับคนอื่นก็สามารถบอกกับเขาได้ แต่ไม่ควรสร้างประเด็นจนนำไปสู่การสร้างความแตกแยก ด้านนายพงศ์เทพ กล่าวว่า การยื่นถวายฎีกานั้นเป็นเรื่องของพสกนิกรที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่การคัดค้านการยื่นถวายฎีกานั้นถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ การคัดค้านที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องผิดปกติ ทำให้เกิดความวุ่นวาย ยุ่งยาก สำหรับคนที่คัดค้านนั้นจะเห็นได้ว่ามีกลุ่มบุคคลช่วยทำให้เกิดกระแส และมีความพยายามที่จะสร้างประเด็นขึ้นมาทั้งๆที่ใครใคร่ถวายฎีกานั้นถือเป็นเรื่องปกติ การพยายามสร้างประด็นขึ้นมาจะยิ่งทำให้เกิดความไม่ปรองดอง เช่น ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณเคยมีการยื่นถวายฎีกาหลายครั้งจากคนหลายกลุ่มแต่ก็ไม่เคยมีการคัดค้านเกิดขึ้น สำหรับในฐานะอดีตรมว.ยุติธรรมมองว่าเมื่อมีการยื่นถวายฎีกาไปแล้วสามารถนำกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้งได้หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เมื่อมีการยื่นถวายฎีกาไปแล้ว หากสำนักราชเลขาธิการติดใจหรือสงสัยข้องใจก็จะส่งเรื่องมาที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ให้ความเห็นตามที่มีการซักถามมา แต่นั่นไม่ใช่ที่สุด เพราะทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย