มาร์คบอกเติ้งแจงไม่เคยให้สัมภาษณ์ตำหนินายกฯจุ้นโผตร.สื่อลงไปเอง ยันไม่ได้แทรกแซงแค่ปลดล็อค

มาร์คบอกเติ้งแจงไม่เคยให้สัมภาษณ์ตำหนินายกฯจุ้นโผตร.สื่อลงไปเอง ยันไม่ได้แทรกแซงแค่ปลดล็อค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์คเผยเติ้งส่งม้าเร็วออกตัว ไม่เคยให้สัมภาษณ์ตำหนินายกฯ จุ้นโผตร. โยนสื่อรับกรรมตามระเบียบ "เติ้งออกตัวคุยแต่เรื่องท่องเที่ยวแต่สื่อไปลงเอง นายกฯยันไม่ได้แทรกแซงทำโผ แต่มีหน้าที่ต้องดูแลกระบวนการให้ชอบด้วยกม. แค่ช่วยปลดล็อคให้คนทำคดีสบายใจ มาร์คแจงเติ้งออกตัวไม่ตำหนิจุ้นโผตร.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่หน้าบ้านพักซอยสุขุมวิท 31 กรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นายกฯ เข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจมากเกินไปว่า เรื่องตำรวจไม่มี วันก่อนท่านบรรหารให้คนมาบอกว่า ที่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ไปลงเป็นบทสัมภาษณ์ ท่านบอกว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ใช่ที่นายบรรหารได้ให้สัมภาษณ์พิเศษในหนังสือพิมพ์มติชน ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า "ครับ ท่านให้คนมาบอกว่า ท่านไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลย เมื่อถามต่อว่า รวมถึงเรื่องที่นายบรรหารบอกว่า ไม่อยากให้นายกฯ ไปยุ่งกับโผโยกย้ายตำรวจด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า " นั่นแหละครับ ไม่เห็นมีอะไร และผมก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย

เมื่อถามว่า แต่นายบรรหารแนะนำให้ นายกฯ ฟังหลายฝ่ายให้มากขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะท่านให้คนมาบอกว่า ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ท่านบอกว่า มีเรื่องที่ไปเข้าใจว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ไปพาดพิงอะไรเกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยว มีการคุยกันเฉพาะในกรอบนั้น แต่ไปลงเป็นเรื่องอื่นหมด เมื่อถามว่า แต่อีกไม่กี่วัน หลังจากนั้น นายวัรชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ออกมาแถลงข่าว ที่ที่ทำการพรรค และพูดทำนองเดียวกันด้วยว่า นายกฯ ไม่ควรไปแทรกแทรงโผตำรวจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ถูกต้อง ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกแซงตำรวจ ก็ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน เมื่อถามว่า แสดงว่า นายกฯ ยังมั่นใจในพรรคร่วมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา มีความเข้าใจกัน

ยันมี2เรื่องต้องแก้ไม่เกี่ยวโผ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่ภาพที่ออกมา ดูเหมือนนายกฯ ลงไปจัดการกับโผตำรวจเอง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับโผตำรวจเลย ตนมีหน้าที่เดียวคือให้คดี ยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯเดินได้ ส่วนเรื่องตำรวจมี 2 ประเด็นที่เป็นเชิงนโยบาย ไม่ได้เป็นเรื่องตัวบุคคล คือ

1.การโยกย้ายแต่งตั้ง เนื่องจากมีความคาบเกี่ยวกับการจัดโครงสร้างตำรวจใหม่ ที่ต้องให้มีควยามระมัดระวังในข้อกฎหมาย เหตุผลที่ทำอันนี้บอกตรงๆเลยว่า เพราะที่ผ่านมา ตนนั่งเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(กตช.) หลายครั้ง เห็นความไม่รอบคอบในเรื่องกฎหมาย เสนอเรื่องเข้ามาในกตช. 2 ครั้ง ที่ตนเห็นว่าขัดต่อกฎหมาย สุดท้ายต้องยับยั้งไป ดังนั้นไม่อยากให้เกิดปัญหา เพราะรัฐบาลต้องทำตามกฎหมาย และ

2.มันมาซ้อนกับการโยกย้ายประจำปี คือต้องคิดถึงอนาคตที่ต้องมีผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ถ้าไปทำอะไรไว้ ผู้บริหารใหม่เข้ามาบริหารงานไม่ได้ งานก็เสียหายเท่านั้นเอง ตนไม่ได้ไปดูเลยว่าตัวบุคคลใครเป็นใคร

ย้ำคนใกล้ชิดอย่าจุ้นโผ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันมีเพียง 2 เรื่องเท่านั้นเอง ที่ดูแลให้เรียบร้อย และไม่ต้องการให้กระบวนการตรงนี้ไปข่มขวัญคนที่เขาทำคดี เพราะเขากลัวเรื่องนี้ ว่าทำคดีไป เดี๋ยวมีเสียงพูดจากฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ว่าเขาจะถูกลงโทษอะไรต่างๆ ก็บอกว่าต้องไม่ให้มีเรื่องพวกนี้ แต่ไม่ได้ไปแทรกแซงเรื่องตัวบุคคล เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนนายกฯไปใส่ใจคดีใดคดีหนึ่งเป็นการเฉพาะ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีอยู่ 3-4 คดี ที่ติดตามอยู่ บังเอิญสื่อไปสนใจคดีนายสนธิมากเป็นพิเศษ มีคดีอื่นอีกที่ติดตามอยู่ เพราะเป็นผลกระทบต่อผลประโยชน์ชาติ หากไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างดีแล้วมันเสียหายกับส่วนรวม ส่วนคดีนายสนธิก็พอใจในระดับหนึ่ง เพราะคิดว่ามันยังมีมากกว่านี้ ก็ต้องให้เขาเดินต่อ คือ1.การออกหมายจับ ก็ต้องพยายามจับให้ได้ และ 2.พยายามขยายผล

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะกำชับคนรอบข้างไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงโผตำรวจอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ชัดเจน อย่าไปยุ่ง เรื่องของการเมืองเข้าไปแทรกแซงเรื่องตัวบุคคลนั้นไม่ควร แต่ตนดูในเชิงนโยบายเท่านั้นเองว่า อย่าไปทำอะไรผิดกฎหมาย ซึ่งต้องท้วงติงกัน เช่น เรื่องคุณสมบัติ ก็ต้องท้วงติงกันไป ว่าไปยกเว้นรวมๆไม่ได้ กฎหมายระบุว่าให้ยกเว้นเฉพาะรายเป็นต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook