อี-คอมเมิร์ซช็อปสนั่นเว็บ สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัวคนอยู่ติดบ้าน ''ทูโฮม ดอตคอม''คาดสิ้นปีนี้ซื้อขายสิ

อี-คอมเมิร์ซช็อปสนั่นเว็บ สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัวคนอยู่ติดบ้าน ''ทูโฮม ดอตคอม''คาดสิ้นปีนี้ซื้อขายสิ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เว็บอี-คอมเมิร์ซงานเข้า ยอดซื้อขายสะพัด ทูโฮมเผยเศรษฐกิจชะลอคนแห่ขายผ่านเว็บ ขณะที่กระแสไข้หวัดใหญ่ 2009 ช่วยทำยอด 2 เดือนที่ผ่านมาโต เตรียมเสริมทัพซัพพลายเออร์สินค้าบริการเพิ่ม ขณะที่ตลาดดอตคอม

นายธีรวุธ วงศ์วิบูลย์สิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเซี่ยน สตาร์เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ภายใต้ชื่อ ทูโฮม ดอตคอม (www.tohome.com) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่าสถานการณ์ภาพรวมของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซปีนี้นั้นยังมีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตหลายประการ โดยภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีผู้นำสินค้ามาจำหน่ายผ่านเว็บไซต์มากขึ้น นอกจากนี้คนในต่างจังหวัดเริ่มตื่นตัวกับการใช้ช่องทางเว็บไซต์ซื้อขายสินค้า ขณะเดียวกันกระแสไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีผู้หันมาซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับเว็บไซต์ ทูโฮม ดอตคอมนั้นช่วงที่ผ่านมามียอดการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าเพิ่มขึ้นราว 40% และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าเพิ่มเป็น 50% ซึ่งทิศทางในครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทจะมุ่งคัดเลือกผู้ผลิต ผู้ขายสินค้า หรือซัพพลายเออร์สินค้าคุณภาพเข้ามาเสริมการทำตลาดต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีผู้ขายสินค้าที่ขายสินค้าผ่านทูโฮมหลักพันราย ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มผู้ขายสินค้าเพิ่ม 50% นอกจากนี้ยังได้เพิ่มสินค้าในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากบริษัทท่องเที่ยวนำสินค้าและบริการเข้ามาขายบนเว็บไซต์ทูโฮมเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังเน้นการร่วมมือกับผู้ให้บริการสินเชื่อ จัดแคมเปญเงินผ่อน 0% เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่แข็งแรงมากขึ้น และล่าสุดได้ร่วมกับเอ็มเพย์ ในการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบริการเอ็มเพย์ และเปิดให้ผู้ชำระสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวซื้อสินค้ารายพิเศษ

พร้อมกันนั้นยังปรับปรุงบริการจัดส่งสินค้าให้รวดเร็วขึ้น โดยหากเป็นในกรุงเทพฯและ ปริมณฑล สามารถส่งสินค้าได้ภายใน 4 ชั่วโมง จากเดิมวันถัดไปจากการสั่งซื้อสินค้า ส่วนต่างจังหวัดสามารถจัดส่งให้หลังสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 วัน จากเดิม 2- 3 วัน พร้อมกันนั้นยังได้พัฒนาส่วนของเทคโนโลยี เพื่อให้ตอบสนองความต้องการซื้อสินค้าของลูกค้ามากขึ้น โดยหน้าเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปตามความสนใจสินค้าของลูกค้า ทำให้ลูกค้าแต่ละรายมีหน้าเว็บไซต์ทูโฮมไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังได้ลงทุนระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ ซีอาร์เอ็ม มาใช้สร้างกิจกรรมกับสมาชิก 150,000 รายที่มีการซื้อขายสินค้าอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดดอทคอม จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์ซื้อขายสินค้า ตลาดดอทคอม (www.tarad.com) และเว็บไซต์ซื้อขายสินค้ามือสอง ไทยเซคคันแฮนด์ดอตคอม (www.thaisecondhand.com ) กล่าวว่าช่วง 6-8 เดือนที่ผ่านมีปริมาณการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ของตลาดดอทคอมเพิ่มขึ้น 30-40% ซึ่งปัจจัยเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้มีผู้ประกอบการนำสินค้าเข้ามาขายผ่านเว็บไซต์มากขึ้น

ขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมายังมีกรณีตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำอี-คอมเมิร์ซ อีกทั้งหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค และเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ หรือซอฟต์แวร์พาร์ค ต่างให้การส่งเสริมผู้ประกอบการ ในการทำอี-คอมเมิร์ซอย่างเต็มที่ นอกจากนี้การแข่งขันบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นเอื้อประโยชน์ในการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานการทำอี-คอมเมิร์ซที่มีความเร็วมากขึ้น

นายภาวุธ กล่าวว่าขณะนี้บริษัทสามารถให้บริการด้านอี-คอมเมิร์ซสมบูรณ์แบบ 100% โดยล่าสุดได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาตรวจเช็กอัตราค่าบริการส่งสินค้า นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับ เอ็มเพย์ ในการให้บริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์มือถือ พร้อมกันนั้นยังได้รับใบอนุญาต จากธนาคารแห่งประเทศไทย ในการให้บริการระบบชำระเงิน หรือ เปย์เมนต์เกตเวย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook