สกสค.ตั้งทีมสอบวินัยร้ายแรง3บิ๊กองค์การค้า หลังสอบพบมูลความผิด เห็นชอบปลัดศธ.นั่งผอ.องค์การค้าอีก6ด.

สกสค.ตั้งทีมสอบวินัยร้ายแรง3บิ๊กองค์การค้า หลังสอบพบมูลความผิด เห็นชอบปลัดศธ.นั่งผอ.องค์การค้าอีก6ด.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สกสค.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 3 บิ๊กองค์การค้าฯ หลังสอบสวนพบมูลความผิดรับฝากปุ๋ย แก้เงื่อนไขวางมัดจำพิมพ์กล่องซีดี รับจ้างพิมพ์สมุดให้โรงเรียนอบจ.อุดรธานี ให้ปลัดศธ.รักษาการผอ.องค์การค้าต่ออีก 6 เดือน นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมว่า จากการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่องค์การค้าของสำนักงาน สกสค.ตามผลการสอบข้อเท็จจริงชุดที่นายสรรค์ วรอินทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นประธาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการสอบสวนพบมูลความผิดในประเด็น 1.กรณีองค์การค้าฯรับฝากขายปุ๋ยกับบริษัท 4 ภาคการเกษตร 2.กรณีการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการวางมัดจำการพิมพ์กล่องซีดี และแผ่น 3.กรณีการรับจ้างพิมพ์สมุดโรงเรียนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี โดยที่ประชุมมีมติให้ตั้งนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นประธานให้ดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 45 วัน ส่วนจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องจำนวนกี่คนนั้น ขอให้คณะกรรมการชุดนี้ไปสืบหาข้อมูลก่อน

ที่ประชุมยังมีมติให้ปลัด ศธ.ในฐานประธานคณะกรรมการ สกสค.รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าฯต่ออีก 6 เดือน มีเงื่อนไขให้คณะกรรมการ สกสค.หาแนวทางติดต่อกับสถาบันทางการเงิน เพื่อดำเนินการตามแผนงานฟื้นฟูองค์การค้าฯโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นให้ดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ต่อไป หากได้แหล่งเงินมาฟื้นฟูสภาพคล่องขององค์การค้าฯได้เร็ว อาจจะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าฯไม่ถึง 6 เดือนนายชินภัทรกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า จากรายงานผลการสืบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนายสรรค์ วรอินทร์ เป็นประธานนั้น พบว่า 1.กรณีข้อร้องเรียนองค์การค้าฯ รับฝากขายปุ๋ยกับบริษัทสี่ภาคการเกษตร มีนายบำเรอ ภานุวงศ์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าฯ และนายชัชพัฒน์ บุญประเสริฐ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ภาคการค้า เป็นผู้รับผิดชอบ และเกี่ยวข้อง คณะกรรมการสอบสวนได้ชี้ชัดว่าทั้ง 2 คน มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง 2.กรณีการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการวางมัดจำการพิมพ์กล่องซีดี และปกแผ่นซีดี มีนายภกร รงค์นพรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาคการ เป็นผู้ที่เกี่ยวข้อง และรับผิดชอบ การกระทำเข้าข่ายความผิดวินัยฐานไม่ปฏิบัติตามระเบียบ และคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และไม่ระวังรักษาประโยชน์ของหน่วยงานทำให้หน่วยงานได้รับความเสียหาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook