มีชัยปธ.อนุกก.ฯชุมชนพอเพียงขู่ลาออก จี้รบ.รื้อโครงการชี้เดินผิดทาง
มีชัยปธ.อนุ กก.วิชาการชุมชนพอเพียง จี้รัฐบาลปรับรูปแบบ ชี้เดินผิดทาง หวั่นกลายเป็นโครงการไม่รู้จักพอ ย้ำป้องกันคนหาผลประโยชน์ หากไม่แก้ไขขอออก มาร์ค ยันได้ตัวคนผิดสัปดาห์นี้แน่ รับมี ส.ข.พรรคเอี่ยว
มีชัย จี้รบ.สกัดหาผลประโยชน์
นายมีชัย วีระไวทยะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะ อนุกรรมการฝ่ายวิชาการและเครือข่ายองค์ความรู้ โครงการชุมชนพอเพียง ให้สัมภาษณ์ มติชน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานโครงการชุมชนพอเพียง ของสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.)ขณะนี้ว่า ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนเข้าใจสิทธิของตนเอง ขอย้ำว่าต้องเข้าใจแบบจริงจัง โดยเฉพาะรูปแบบของโครงการ ว่าเป็นอย่างไร หลักการเป็นอย่างไร ชุมชนต้องคิดต้องตัดสินใจเอง การใช้เงินจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุด ใครจะมาชี้นำไม่ได้ ต้องเร่งปรับปรุงระบบการสื่อสารให้ ดีขึ้น
"ปัญหาเรื่องความเข้าใจของชุมชนขณะนี้มีน้อยมาก ขนาดชุมชนใน กทม. ที่อยู่ใกล้ข้อมูลข่าวสารมากที่สุด ยังไม่ค่อยรู้อะไรหรือไม่เชื่อไปถาม ดูได้ เพราะฉะนั้นในส่วนของต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง ด้วยเหตุนี้ก็เลยเป็นช่องว่าง ทำให้คนที่คิดไม่ดีเข้ามาหาผลประโยชน์ได้ สิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องตระหนัก ก็คือ รูปแบบการดำเนินงานว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าไปยัดเงิน ใส่มือเขาอย่างเดียว" นายมีชัยกล่าว
นายมีชัย กล่าวว่า ส่วนรัฐบาลต้องจริงจังกับการป้องกันไม่ให้มีคนเข้ามาหาผลประโยชน์ แค่กำหนดช่องทาง การแจ้งข่าวของชุมชนให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์พิเศษ หรืออี-เมลพิเศษ นายกฯสั่งการตรงนี้ได้เลย หากข้อมูลที่แจ้งเข้ามาเป็นความจริง ก็เข้าไปจัดการได้ทันที จะได้กวาดทุกอย่างให้สะอาดไปในทีเดียว เมื่อถามว่าแสดงว่ากระบวนการทำงานโครงการชุมชนพอเพียง ในปัจจุบันเดินมาผิดทาง นายมีชัยกล่าวว่า ขอตอบว่าใช่ และจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น
ขู่ไม่แก้ปัญหาลาออกปธ.อนุกก.
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ปรับปรุงรูปแบบการทำงานใหม่ จะเกิดอะไรขึ้น นายมีชัยกล่าวว่า โครงการชุมชนพอเพียง คงจะกลายเป็นโครงการที่ไม่รู้จักคำว่า พอ "ซึ่งในส่วนของตัวผม จากการที่ได้เสนอแนะ และให้คำแนะนำไปหลายครั้ง แต่ถ้า ยังไม่มีอะไรดีขึ้นอีก ผมก็คงต้องโบกมือลา ขอไปทำงานช่วยเหลือชุมชนแบบที่ผมเคยทำดีกว่า แม้จะไม่มีเงินเยอะมากเท่ากับรัฐบาล แต่เชื่อว่าจะได้ผลตอบแทนอะไรมากกว่า"
เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับผิดชอบ นายมีชัยกล่าวว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเปลี่ยนตัวใครหรือไม่เปลี่ยนใคร เพราะไม่ว่าจะเป็น ผอ. หรือรัฐมนตรีอีกสักกี่คน แต่ถ้าไม่ปรับปรุงโครงสร้างงานให้มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถทำให้ชุมชนเข้าใจเรื่องความเข้มแข็ง และการพัฒนาชุมชนแบบยั่งยืนได้ งานก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี
มาร์ค รับชุมชนมีส.ข.พรรคเอี่ยว
วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางฝ่ายรัฐบาลก็ตรวจสอบเรื่องนี้จริงจัง และมีความชัดเจนมากขึ้นแล้วในส่วนของพื้นที่ แต่ในส่วนของพรรค นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชุมชนพอเพียงจะสรุปมาให้ตนได้ภายในสัปดาห์นี้ และมีคนผิดแน่นอน แต่ในส่วนของสพช. ก็กำลังจะไปคุยกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหาร สพช.ว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนมีความกังวลว่ามีอุปสรรคในการตรวจสอบ
เมื่อถามว่าสาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้ในระดับไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พื้นที่ก็ชัดเจนว่าเป็นผู้ที่ไปเคลื่อนไหวตามพื้นที่ต่างๆ ต่อไปก็จะต้องไปดูความเชื่อมโยงของคนเหล่านี้กับสำนัก งานเป็นอย่างไร ทั้งความเชื่อมโยงของผู้บริหาร สพช.กับบริษัทเอกชนที่มาขายของ เมื่อถามว่า รวมถึงตัว ส.ข. พรรคประชาธิปัตย์บางคนด้วยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใช่ครับ เมื่อถามว่า รวมถึงญาติรัฐมนตรีบางคนด้วยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็จะต้องดูให้ครบไม่ปล่อยส่วนไหนออกไปแน่นอน ส่วนการลงโทษนั้นจะต้องรอให้คณะกรรมการสรุปมาให้ตนก่อน แต่เท่าที่สอบถามกับนายเจริญก็ได้รับการยืนยันว่า มีคนผิดแน่นอน
ติงผอ.สพช.อย่าโทษประชาชน
เมื่อถามว่า มีรายงานว่าการทุจริตทำกันเป็นขบวนการทั้งระดับบนและระดับท้องถิ่น นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า "นั่นแหละครับ ทั้งในส่วนสำนัก งาน พื้นที่ คนที่ขายของ ก็จะต้องดูให้หมด จะโยงถึงใครก็ต้องว่ากันตรงไปตรงมา" เมื่อถามว่า วิธีคิดของนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สพช. มีปัญหาหรือไม่ ที่ระบุว่า โครงการชุมชนพอเพียงเกิดปัญหาเพราะชาวบ้านไม่รู้หน้าที่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีใครมีสิทธิโยนความผิดให้กับชาวบ้าน เป็นโครงการที่ต้องช่วยสนับสนุนให้ชาวบ้านทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็เป็นความผิดของรัฐบาลเอง ตนไม่ได้ยินนายสุมิทให้สัมภาษณ์ด้วยตัวเอง แต่เท่าที่เห็นจากข่าวก็ไม่สบายใจที่ไปโทษประชาชน เพราะหากภาค รัฐมีการอำนวยความสะดวกส่งเสริมประชาชน ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า นายสุมิท ยังเหมาะสมจะเป็น ผอ.สพช.ต่อไปหรือไม่ นาย อภิสิทธิ์ยิ้มแหยๆ ก่อนกล่าวว่า "เดี๋ยวจะไปเรื่องอื่นแล้วนะครับ เอาเรื่องของการตรวจสอบตรงนี้ก่อน แล้วจะดูความเหมาะสมอีกที"
เจริญ รับ2ส.ข.เอี่ยวชี้นำพอเพียง
นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน ปชป.ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวว่า วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ลงพื้นที่เขตบางกะปิ เพื่อให้ตัวแทนชุมชน 4-5 ชุมชน เล่าข้อเท็จจริงให้ฟัง ซึ่งหลายคนก็เล่าตรงกันว่ามี ส.ข.ของพรรคคนหนึ่ง ไปชี้นำให้ชาวบ้านรีบเลือกโครงการเพื่อจะซื้อของเร็วๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่รับอนุมัติงบประมาณ โดยบอกว่าให้คิดโครงการวันนี้ และวันพรุ่งนี้จะ มารับเอกสาร แต่ยังไม่พบว่ามีการทุจริต เช่น เดียวกับเขตบางพลัดที่มีการดำเนินการลักษณะเดียวกันจาก ส.ข.ในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า มีคนในอำเภอหนึ่งใน จ.กาฬ สินธุ์ ไปข่มขู่ชาวบ้านว่า หากไม่ซื้อปุ๋ยจะไม่ได้งบฯ แถมบอกอีกว่า ถ้าซื้อจากบริษัทเอกชนที่หนึ่งก็จะได้ส่วนลดเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ไม่รู้ว่า นายอำเภอในพื้นที่ดังกล่าวรู้เรื่องด้วยหรือไม่ แต่คณะกรรมการจะนำเสนอข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กับนายกรัฐมนตรีทราบภายในสัปดาห์นี้
สาวไม่ถึงระดับชาติ-ไม่แตะ บ.ขาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงโทษสมาชิกพรรคที่ไปเกี่ยวข้องส่อทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงอย่างไร นายเจริญกล่าวว่า ยังไม่ได้หารือถึงขนาดนั้น แต่ถ้ามีคนผิดจริงต้องลงโทษอย่างแน่นอน เมื่อถามว่า แสดงว่าจะไม่ให้คนที่ทุจริตอยู่ในพรรคต่อไปใช่หรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า ต้องคุยกันอีกทีก่อน
เมื่อถามว่า เป็นเรื่องแปลกที่คณะกรรมการชุดนี้ไม่พบนักการเมืองระดับชาติเกี่ยวข้องกับการทุจริตเลย นายเจริญกล่าวว่า มันสาวไปไม่ถึง ได้แต่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติเท่านั้น ส่วนบริษัทเอกชนที่เข้ามาขายสินค้าใดจะเกี่ยวกับพรรค การเมืองใดหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะไม่มีหน้าที่ตรวจสอบตรงนั้น เช่นเดียวกับไม่ได้ตรวจสอบว่าการเสนอขายสินค้ามีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีระบุว่าจะให้สอบถึงความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าหน้าที่สพช.กับบริษัทเอกชนบางรายด้วย นายเจริญกล่าวว่า คำสั่งที่ตั้งคณะกรรมการชุดตนกว้างมาก จึงต้องไปหารือกันก่อน แต่เบื้องต้นจะดูปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านเป็นหลัก
อ้อมแอ้มปมปลด สุมิท-ประโภชฌ์
เมื่อถามว่า ที่เตรียมเสนอต่อนายกฯมีเรื่องการปลดนายสุมิท ผอ.สพช.ด้วยหรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า ถ้าการบริหารงานของ สพช.มีปัญหาก็จะเสนอเพียงให้ สพช.ปรับปรุงการทำงานเท่านั้น แต่ถ้าพบว่ามีใครทุจริตก็จะยื่นต่อ ป.ป.ช. และตำรวจให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที เมื่อถามย้ำว่าแต่ที่ประชุม ส.ส.กทม.ปชป. วันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมาก็มี ส.ส.บางคนเสนอให้ปลดนายสุมิทออก นายเจริญกล่าวว่าไม่ได้เสนอกันถึงขั้นนั้น เพียงแต่บอกว่าให้ไปปรับปรุงการทำงานเท่านั้น
เมื่อถามว่า หากปลดนายสุมิทแล้วนาย ประโภชฌ์ สภาวสุ รอง ผอ.สพช.น้องชายนาย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี จะให้ออกจากตำแหน่งด้วยหรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงตัวบุคคล พูดเพียงการบริหารงานของ สพช.เท่านั้น เมื่อถามว่า แต่มีกระแสข่าวหนาหูและมีการวิเคราะห์จากบางฝ่ายว่าพรรคจะบีบให้นายสุมิทลาออกเป็นแพะ เพื่อตัดตอนไม่ให้ลามมาถึงพรรค นายเจริญกล่าวว่า ผมบอกมาเสนอว่าใครมีหลักฐานก็ให้ไปดำเนินคดีเองได้ พรรคทุกพรรคต้องทำตัวให้สะอาด ใครรู้ตัวว่าสกปรกก็ต้องกลับไปล้างบ้าน ก่อนที่จะกล่าวหาใคร ต้องทำบ้านของตัวเองให้สะอาดก่อน
