ปลายปีได้ใช้แน่เครือข่าย3จี

กทช.รอเปิดประชาพิจารณ์

ทนรอต่อไปอีกนิด คนไทยได้ใช้ 3 จีแน่ กทช.เร่งเดินเครื่องเอกสารเชื้อเชิญผู้สนใจลงทุน คาดสิ้นเดือนนี้ทำประชาพิจารณ์ได้

นายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวว่า อีกประมาณ 2 สัปดาห์ บริษัท เนร่า ที่ปรึกษา 3 จี จะเสนอโครงสร้างเอกสารเชื้อเชิญผู้สนใจลงทุนอีกครั้งหลังจากเมื่อวันที่ 26-27 สิงหาคมได้ส่งให้คณะกรรมการ กทช. พิจารณาแล้วมีมติให้แก้ไขในรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของภาษาทางกฎหมาย คาดว่าคณะกรรมการ กทช.จะพิจารณาโครงสร้างเอกสาร เชื้อเชิญผู้สนใจลงทุน 3 จี อีกครั้งในวันที่ 9 กันยายนนี้ หลังจากนั้นจะประกาศในเว็บไซต์ของ กทช. (www.ntc.or.th) ระยะเวลา 15 วัน ก่อนจะเปิดรับฟังความคิดเห็นทางสาธารณะโครงสร้างดังกล่าวประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ และในวันที่ 11 กันยายน กทช.จะเปิดประชาพิจารณ์หลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตไวแม็กซ์ ในย่านความถี กิกะเฮิรตซ์ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ และ 2.6 กิกะเฮิรตซ์

พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธาน กทช.กล่าวว่า ปลายปีนี้จะสามารถเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี ได้ โดยขั้นตอนในขณะนี้ บอร์ด กทช.ได้อนุมัติกรอบเบื้องต้นไปแล้ว เหลือเพียงรอบริษัทที่ปรึกษา 3 จี ส่งรายละเอียดที่แก้ไข แล้วกลับมา น่าจะได้รับข้อสรุปภายในเดือนนี้

นอกจากนี้ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ได้ร่วมมือกับ 5 มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางขุนเทียน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อเปิดโครงการฉลาดเลือก ฉลาดใช้อุปกรณ์โทรคมนาคม โดยยุวทูตโทรคมนาคม ชวนเยาวชนประกวดโครงงานรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การใช้อุปกรณ์ การบริการ สิทธิผู้บริโภค และเทคโนโลยี 3 จี เพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาแนวคิดในการประกอบอาชีพด้านโทรคม

โครงการดังกล่าวรับสมัครเยาวชน ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 นิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ และที่จบการศึกษาแล้ว ผู้สนใจในเทคโนโลยีโทรคมนาคม สมัครเป็นทีม 4 คน พร้อมตั้งชื่อทีม โดยทีมที่สมัครจะต้องเสนอกิจกรรมโครงงานด้านรณรงค์และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การเลือกใช้อุปกรณ์ การบริการโทรคมนาคม และความรู้ความเข้าใจในสิทธิผู้บริโภค สำหรับเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจะแบ่งเป็นภูมิภาคละ 25 ทีม รวม 5 ภูมิภาค จำนวน 500 คน โดยโครงงานที่ผ่านการพิจารณาและมีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติจะได้รับเงินทุน สนับสนุนการทำโครงงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โครงงานละ 100,000 บาท.